Page 11 - ການບໍລິຫານຈັດການ ບົດສອນ

11

3. สั่งเรื่องที่เป็นไปได้ไม่เกินความสามารถ

4. ศึกษาสภาพแวดล้อมก่อนสั่งการ
การสั่งการมี 4 รูปแบบ

• การสั่งการโดยการออกค าสั่ง

• การสั่งแบบขอร้อง

• การสั่งแบบเสนอแนะ

• การสั่งแบบอาสาสมัคร
หลักปฏิบัติในการสั่งงาน

1. ต้องรู้แจ้งในข้อเท็จจริงให้แน่ชัด

2. ต้องสั่งงานให้ตรงประเด็น

3. ต้องสั่งงานให้เป็นที่เข้าใจแจ่มแจ้ง และต้องมีความแน่ใจ
4. ต้องสั่งงานให้ทันต่อเวลาและเหตุการณ์

5. ต้องสั่งงานให้อยู่ในวิสัยที่ปฏิบัติตามได้

6. ต้องมอบหมายอ านาจให้เพียงพอแก่การปฏิบัติงาน
7. ต้องกล้ารับผิดชอบ และยอมรับข้อผิดพลาดถ้าไม่เกิดผล

4.การประสานงานCoordinating

ความหมายของการประสานงานในภาคราชการ ได้ให้ความหมายของการประสานงาน ดังนี้ “ การ
จัดระเบียบวิธีการท างาน เพื่อให้งานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ร่วมมือปฏิบัติงานเป็นน ้าหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ท า

ให้งานซ ้าซ้อน ขัดแย้งกัน หรือเหลื่อมล ้ากัน ทั้งนี้เพื่อให้การด าเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น สอดคล้องกับ

วัตถุประสงค์ และนโยบายขององค์กรนั้นอย่างสมานฉันท์และมีประสิทธิภาพ” ส่วนความหมายในภาคธุรกิจ

นิยมให้ความหมายว่า “การติดต่อสื่อสารให้เกิดความคิดความเข้าใจในการร่วมมือปฏิบัติงานให้สอดคล้องทั้ง
เวลา และกิจกรรมที่จะต้องกระท าให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างสมานฉันท์เพื่อ ให้งานด าเนินไปอย่างราบรื่น

ไม่เกิดการท างานซ ้าซ้อน ขัดแย้ง หรือเหลื่อมล ้ากัน”

วัตถุประสงค์ของการประสานงาน

1. เพื่อให้มีการปฏิบัติงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
2. สร้างความเข้าใจอันดี สามัคคีในหมู่คณะ

3. สร้างขวัญและก าลังใจให้เกิดในหน่วยงาน

4. มีความเข้าใจในงานตรงกันทุกเรื่องทุกขั้นตอน
การประสานงานจึงมีองค์ประกอบหลักที่ส าคัญก็คือ ความร่วมมือซึ่งจะต้องมีความเข้าใจหรือมีการ

ตกลงร่วมกัน มีการระดมความคิด วิธีการ เทคนิค การจัดหาทรัพยากรมาสนับสนุนการท างานร่วมกัน เรื่อง

ของจังหวะเวลาซึ่งผู้ที่ปฏิบัติงานจะต้องมีความรับผิดชอบที่จะท าให้งานนั้นเป็นไปตามระยะเวลาที่ก าหนด
โดยงานที่ท าจะต้องมีความสอดคล้องกันอย่างเหมาะสม มีการสื่อสารที่ตรงกันอย่างรวดเร็วและราบรื่น

รวมทั้งผู้ประสานจะต้องสามารถท าให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมท างานอย่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันตามวัตถุประสงค์ของ