Page 123 - หนังสือเรียนสาระความรู้พื้นฐาน
P. 123

116



                         เรื่องที่ 2  ทักษะการตระหนักในการรูตน

                         การรูจักตนเอง เปนเรื่องใกลตัวที่ดูเหมือนไมนาจะสลักสําคัญอะไรที่เราจะตองมานั่งเรียนรูทําความ

                  เขาใจ แตทวากลับมาความสําคัญอยางยิ่งยวด เปรียบไดกับเสนผมบังภูเขาที่ทําใหคนจํานวนมากที่แมมี

                  ความรูมากมายทวมหัวแตเอาตัวไมรอด เนื่องจากสิ่งหนึ่งที่เขาไมรูเลยนั่นคือการรูจักของเขาอยางถองแท
                  นั่นเอง

                         ทั้งๆ ที่ในความเปนจริงแลวการรูจักตนเองนับเปนพื้นฐานสําคัญที่เราควรเรียนรูเปนอันดับแรกสุด

                  ในชีวิต เนื่องจากการรูจักตนเองจะนําไปสูการมีเปาหมายที่ชัดเจนในการดําเนินชีวิต เนื่องจากรูวาตนมีความ
                  ถนัด ความชอบและความสามารถในดานใด ดังนั้นจึงรูวาตนควรจะเรียนอะไร ประกอบอาชีพอะไร  ควร

                  แสวงหาความรูอะไรเพิ่มเติม

                         การรูจักวิธีเฉพาะตัวที่ตนถนัดในการพัฒนาทักษะการเรียนรูในดานตางๆ ของตนเองใหเปนไปอยาง
                  มีประสิทธิภาพ อาทิ รูเทคนิคการเรียนหนังสือของตนวาควรใชวิธีใดจึงประสบผลสําเร็จ เชน รูตัววาความจํา

                  ไมดี จึงตองใชวิธีจดอยางละเอียดและทบทวนบทเรียนอยางสม่ําเสมอ

                         จุดออนในชีวิตไดรับการแกไขอยางทันทวงที อาทิ เมื่อเรารูตัววาเปนคนใจรอน เมื่อมีเหตุการณที่เรา
                  รูสาเหตุหากอยูในสถานการณเชนนี้อาจนําไปสูการใชความรุนแรงได ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะแยกตัวออกมา

                  นั่งสงบสติอารมณเพื่อคิดหาวิธีการแกไขที่ดีที่สุด

                         การพัฒนาทักษะการแกไขปญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตอยางมีประสิทธิภาพ เนื่องจากรูวาปญหานั้นมา

                  สาเหตุมาจากตนหรือไม และรูวาตนเองควรปรับอารมณเชนใดเมื่อยามเผชิญปญหาและควรหาวิธีการใดที่
                  เหมาะสําหรับตนเองมากที่สุดในการแกปญหาใหลุลวงไปไดดวยดี

                         การคนพบความสุขที่แทจริงในสิ่งที่ตนเลือกทํา เนื่องจากรูวาอะไรที่ทําแลวจะทําใหตนเองมี

                  ความสุขได นําไปสูการเรียนรูและเขาใจผูอื่นไดมากยิ่งขึ้น อันเปนการลดปญหาความขัดแยงและนําไปสู
                  มิตรภาพที่ดีตามมา

                         ตรงกันขามกับผูที่ไมรูจักตนเอง ซึ่งมักใชชีวิตโดยปลอยไปตามกระแสสังคม เลียนแบบทําตามคน

                  รอบขาง โดยขาดจุดยืนที่ชัดเจน เชน แสวงหาความสุขในชีวิตดวยการไปเที่ยวเตรกับเพื่อน เสพยาเสพติด

                  การเลือกคณะที่จะสอบเขามหาวิทยาลัยตามคานิยมขณะนั้นหรือเลือกตามเพื่อน สุดทายเขาจึงไมสามารถพบ
                  กับความสุขที่แทจริงในชีวิตไดและนําไปสูปญหามากมายตามมา นอกจากนี้คนที่ไมรูจักตนเองยามเมื่อตอง

                  เผชิญหนากับปญหา โดยมากแลวมักจะไมดูวาปญหาที่เกิดขึ้นนั้นมาจากตนเองหรือไม แตมักโทษเหตุการณ

                  หรือโทษผูอื่นเอาไวกอน จึงเปนการยากที่จะแกปญหาใหลุลวงไปไดดวยดี
                         ทักษะการรูจักตนเองจึงเปนทักษะสําคัญที่เราทุกคนตองเรียนรูและฝกฝน เนื่องจากการรูจักตนเอง

                  นั้นไมไดเปนเรื่องที่นั่งอยูเฉยๆ แลวจะสามารถรูขึ้นมาไดเองแตตองผานกระบวนการบมเพาะผาน

                  ประสบการณตางๆ การลองผิดลองถูก ความผิดหวัง เจ็บปวด ความผิดพลาดลมเหลวตางๆ เพื่อที่จะตกเปน
                  ผลึกทางปญญาในการรูจักตนเอง รวมทั้งผานการปฏิสัมพันธกับบุคคลรอบขางซึ่งถือเปนกระจกสะทอนชั้น

                  ดีใหเราไดเรียนรูจักตนเอง โดยยิ่งรูจักตนเองเร็วเทาไรยิ่งเปนการไดเปรียบในการออกสตารทไปสูเปาหมาย
   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128