Page 30 - บทที่ 2 การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
P. 30

68 | G E L 1 1 0 1     ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ไ ท ย







                                             2.2.3.2  พรรณนาโวหาร
                                                    พรรณนาโวหาร คือ การใช้ส านวนภาษาร้อยแก้วเพื่อน าเสนอ

                       เรื่องราวอย่างประณีต ละเอียดลออ  เน้นให้ผู้รับสารเกิดความรู้สึก สะเทือนอารมณ์  เกิดจินตภาพ

                       และอารมณ์คล้อยตาม  พรรณนาโวหารอาจใช้ภาพพจน์ เช่น การเปรียบเทียบหรือการใช้
                       สัญลักษณ์เข้ามาประกอบเพื่อให้กระทบอารมณ์ความรู้สึกของผู้รับสาร  โดยพรรณนาโวหารเป็นได้

                       ทั้งการเขียนและค าพูด  โดยมักปรากฏในนวนิยาย  เรื่องสั้น   บทละคร  เช่น

                               ตัวอย่างพรรณนาโวหารในนวนิยาย

                        หิมะหยุดตกแล้ว—ลมนิ่ง—มีแต่ความสงบราบเรียบกับความหนาวเย็นจนเป็นน ้าแข็งของ

                        ละอองน ้าค้าง เรืองที่อยู่อาศัยที่สร้างภาพงามของท่าน บูนเดขาวโพลนไปหมด เชิงชายห้อย
                        ระบายด้วยน ้าแข็งที่จับตัวเป็นแท่งยาว—น ้าแข็งย้อยระย้าลงมาจากหลังคา  ระเบียงหน้าและ

                        หน้าต่างจั่ว—บ้านนกพิราบใต้หลังคาที่ถูกทอดทิ้งว่างเปล่ากลายเป็นวังน ้าแข็งขนาดเล็ก

                        ประดับประดาน่าทึ่งด้วยเส้นสายบางเบาและยอดที่เป็นช่อชั้นของความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวที่
                        ก าลังคืบคลานเข้ามา (มารี คอเรลลี่, กิ่งแก้ว อัตถากร, (แปล), 2546, หน้า 862)

                                             2.2.3.3  เทศนาโวหาร

                                                    เทศนาโวหาร คือ การใช้ส านวนภาษาเพื่อให้เกิดความรู้คิด

                       โน้มน้าวใจผู้ฟังผู้อ่านให้ปฏิบัติตามหรือเกิดความเข้าใจ   เทศนาโวหารเป็นโวหารเสริมโวหารหลัก
                       อาจใช้ประกอบการบรรยายหรือการพรรณนาก็ได้  โดยเทศนาโวหารไม่จ าเป็นต้องเป็นธรรมะหรือ

                       ค าสั่งสอนหรือคติธรรมทางศาสนาเพียงอย่างเดียว แต่อาจอยู่ในข้อเขียนหรือค าพูด โอวาท สุนทร

                       พจน์ที่ท าให้ผู้รับตระหนักถึงคุณค่าบางอย่าง  ได้รับความรู้ความจริงหรือความเข้าใจเกี่ยวกับการ

                       ใช้ชีวิต  การเรียน การท างาน  การครองเรือน  การเป็นมนุษย์  หรือการอยู่ในสังคมก็ได้  เช่น
                               ตัวอย่างเทศนาโวหารในนวนิยาย

                        จากการศึกษาใคร่ครวญสภาพของชีวิต ฉันไม่คิดว่า การมีชีวิตอยู่เพียงแต่จะกินไปวันหนึ่ง และ

                        แสวงหาความสนุกไปวันหนึ่งแล้วรอวันเจ็บป่วย และตายนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าอะไร ตามความเห็น

                        ฉัน ชีวิตเช่นนี้ เป็นของว่างเปล่า เท่ากับไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้ ชีวิตเฉย ๆ ไม่มีความหมายส าหรับ

                        ฉัน  ถ้าฉันอยู่ ฉันต้องอยู่ในชีวิตที่ดีงาม และชีวิตที่ดีงามนั้นต้องมีอะไรมากกว่าการกิน การ
                        แสวงหาความสนุก แล้วก็รอวันตาย ชีวิตที่ดีงามย่อมมีอยู่และถูกใช้ไปในคุณประโยชน์แก่คนอื่น

                        มิตรรักของฉัน ฉันยังอยากจะอยู่ต่อไปถ้าฉันจะเป ็นประโยชน์แก่คนอื่นได้ แต่เวลาของฉันก าลัง

                        จะหมดเสียแล้ว (ศรีบูรพา, 2557, หน้า 81 – 82)
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35