Page 103 - e-Book Cold Chain
P. 103
96
ค่าน้ าแข็งเฉลี่ย 1,500 บาท/ปี และค่าฟองน้ า เฉลี่ย 100,000 บาท/ปี ในขณะที่มีรายได้จากการรวบรวม
ผลผลิตมังคุดเฉลี่ย 8,000,000 บาท/ปี ทั้งนี้ หากพิจารณาต้นทุนการจัดการโซ่ความเย็นเปรียบเทียบกับรายได้
จากการรวบรวมผลผลิต พบว่า ต้นทุนในการจัดการโซ่ความเย็น คิดเป็นร้อยละ 1.55 ของรายได้จากการ
รวบรวมผลผลิตมังคุดต่อปี
4) มะม่วง (จากการสัมภาษณ์สถาบันเกษตรกร 3 แห่ง)
ื่
ในการจัดการผลผลิตมะม่วงเพอการส่งออก สถาบันเกษตรกรมีการใช้ประโยชน์
ื่
โซ่ความเย็นในการเก็บรักษาในห้องเย็น (Cold Storage) เพอรอการขนส่งซึ่งมีการใช้ทรัพยากรหลัก คือ
ห้องเย็น ท าให้มีต้นทุน คือ ค่าไฟฟาในการใช้ห้องเย็นเฉลี่ย ประมาณ 112,000 บาท/ปี ในขณะที่มีรายได้จาก
้
ิ
การจ าหน่ายมะม่วงเฉลี่ย 155 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ หากพจารณาต้นทุนการจัดการโซ่ความเย็นเปรียบเทียบกับ
รายได้จากการจ าหน่ายมะม่วง พบว่า ต้นทุนในการจัดการโซ่ความเย็น คิดเป็นร้อยละ 0.10 ของรายได้จากการ
จ าหน่ายมะม่วงต่อปี
4.5 ศักยภาพความพร้อมของพื้นที่ EEC (จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง) ในการบริหารจัดการ
ระบบโซ่ความเย็นสินค้าเกษตร
ผลการศึกษาในส่วนนี้ เป็นการวิเคราะห์ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายการพัฒนาพื้นที่ EEC
กับศักยภาพในการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโซ่ความเย็นสินค้าเกษตร โดยพิจารณาจาก
ั
ื้
เป้าหมายส าคัญในการพฒนาพนที่ EEC คือ การพฒนาพนที่เกษตรกรรมให้เป็นพนที่ที่มีศักยภาพในการเป็น
ื้
ั
ื้
ุ
ั
ุ
แหล่งวัตถุดิบสู่อตสาหกรรมชีวภาพและการผลิตยา และการพฒนาต่อยอดสู่อตสาหกรรมแปรรูป ซึ่งการจะ
ด าเนินการให้บรรลุเป้าหมายเพอพฒนาให้จังหวัดหนึ่งจังหวัดใดในพนที่ EEC เป็นศูนย์กลางรวบรวมและ
ื่
ั
ื้
กระจายสินค้าเกษตร จ าเป็นต้องให้ความส าคัญใน 3 เรื่องส าคัญ ดังนี้ (1) ควรเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่
ื้
ื้
ส าคัญของประเทศ (2) มีความพร้อมเรื่องโครงสร้างพนฐานหรือสิ่งอานวยความสะดวกการตลาดที่เออในการ
ท าธุรกิจรวบรวมและกระจายสินค้า และ (3) มีเครือข่ายเชื่อมโยงการผลิตและการตลาด ควบคู่ไปกับข้อมูลผล
การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพนฐานและสิ่งอานวยความสะดวกโซ่ความเย็น และรูปแบบการบริหาร
ื้
จัดการโซ่ความเย็นรายสินค้าของสถาบันเกษตรกรในจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง รวม 14 แห่ง (จาก
ที่ศึกษาทั้งหมด 24 แห่ง ใน 5 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด) โดยเฉพาะเมื่อ
พิจารณาประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับจากการใช้ระบบโซ่ความเย็นที่มีอยู่แล้วของทั้ง 3 จังหวัดในพื้นที่ EEC พบว่า
1) จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดที่สถาบันเกษตรกร (รวม 6 แห่ง) สามารถรวมตัวเป็น
เครือข่ายในการรวบรวมสินค้าเกษตรจากทั้งในพนที่และบริเวณใกล้เคียงและกระจายขนส่งสินค้าเกษตร ไปสู่
ื้
พื้นที่ต่าง ๆ ภายในประเทศและต่างประเทศได้ โดยใช้สถาบันเกษตรกรที่มีการบริหารจัดการระบบโซ่ความเย็น
ที่มีอยู่แล้ว (รวม 4 แห่ง) เป็นฐานในการด าเนินธุรกิจ เนื่องจากมีอาคารรวบรวมสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน
ื่
GMP และมีอาคารห้องเย็นที่สามารถแช่เย็นและแช่แข็งผลไม้ เพอเก็บรักษาผลผลิต/ชะลอผลผลิตออกสู่ตลาด
ึ
้
โครงการศกษาการจัดท าแนวทางการพัฒนาเพื่อการบรหารจัดการโซความเย็น (Cold Chain) ในสนคาพืชผักและผลไมของสถาบันเกษตรกรในพ้นที่ EEC และจังหวัดใกลเคียง
ื
ิ
่
ิ
้
้