Page 108 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 108
แขนงพร้อย
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
1 ซม. ใบประดับรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 1.5 มม. ดอกมีก้านสั้น ๆ หรือไร้ก้าน ไข่ดาว
กลีบเลี้ยงขนาดไม่เท่ากัน ส่วนมากมี 5 กลีบ ยาว 2-8 มม. ติดทน ดอกสีขาว ชมพู Oncoba spinosa Forssk.
แดง หรือเหลือง หลอดกลีบดอกยาว 1.7-2 ซม. ปากหลอดมีขนแผงหนาแน่น วงศ์ Salicaceae
กลีบดอกส่วนมากมี 5 กลีบ รูปรีถึงรูปขอบขนาน ยาว 3-4 มม. เกสรเพศผู้ติดใต้
ปากหลอดกลีบดอก รังไข่มี 2 ช่อง ออวุลจ�านวนมาก เกสรเพศเมียส่วนมากมี 2 แบบ ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. ล�าต้นและกิ่งมีช่องอากาศและหนาม หนามยาว
แบบสั้นและแบบยาว ยอดเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก ผลแห้งแตกตามยาว รูปไข่กลับ 5-7 ซม. ใบเรียงเวียน รูปรีหรือรูปไข่ ยาว 3.5-14 ซม. ขอบจักซี่ฟัน ก้านใบยาว
ยาว 4-6 มม. ปลายมีจะงอยยาว 1-2 มม. เมล็ดจ�านวนมาก ขนาดเล็ก 0.6-1 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 1-2 ซม. กลีบเลี้ยง
มีถิ่นก�าเนิดในแอฟริกา เป็นไม้ประดับ 4 กลีบ รูปไข่ ยาว 1-1.5 ซม. ติดทน ขยายในผลเล็กน้อย ดอกสีขาว มี 8-10 กลีบ
รูปไข่กลับ ยาว 2.5-3.5 ซม. กลีบวงในแคบกว่าเล็กน้อย เกสรเพศผู้จ�านวนมาก
สกุล Pentas Benth. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Rubioideae เผ่า Hedyotideae มี มี 5 มัด รังไข่มีช่องเดียว ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.6-1 ซม. ยอดเกสรมีประมาณ
ประมาณ 50 ชนิด พบในแอฟริกาและมาดากัสการ์ ในไทยพบเป็นไม้ประดับ 8 แฉก ติดทน ผลสดมีหลายเมล็ด กลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-6 ซม. เปลือกแข็ง
ชนิดเดียว ชื่อสกุลเป็นภาษากรีก หมายถึงเรียงวงละ 5 กลีบ มีสันตื้น ๆ ประมาณ 8 สัน เมล็ดรูปไข่ ยาว 6-7 มม.
มีถิ่นก�าเนิดในแอฟริกา เป็นไม้ประดับทั่วไปในเขตร้อน เปลือกแข็งใช้ท�ากล่อง
เอกสารอ้างอิง
Chen, T. and C.M. Taylor. (2011). Rubiaceae (Pentas). In Flora of China Vol. ใส่ยาสูบ ผลกินได้ รากใช้รักษาโรคท้องมาน และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เมล็ดให้
19: 290. น�้ามันใช้ท�าน�้ามันชักเงา แต่สกัดค่อนข้างยาก
สกุล Oncoba Forssk. มีประมาณ 30 ชนิด พบในอเมริกาเขตร้อน แอฟริกา
และอาระเบีย ในไทยพบเป็นไม้ประดับชนิดเดียว ชื่อสกุลมาจากภาษาอาหรับ
“onkub” หนาม เช่นเดียวกับคำาระบุชนิด ซึ่งหมายถึงหูใบที่เปลี่ยนรูปเป็นหนาม
เอกสารอ้างอิง
Burkill, H.M. (1995). The useful plants of west tropical Africa. Royal Botanic
Gardens Kew, 2nd edition, Vol. 3: 34-35.
เข็มอินเดีย: ช่อดอกแบบช่อกระจุกสั้น ๆ ที่ปลูกเป็นไม้ประดับส่วนมากเป็นแบบที่มีก้านเกสรเพศเมียยาว มีหลากสี
(ภาพ: cultivated - RP)
แขนงพร้อย ไข่ดาว: ดอกขนาดใหญ่ ออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอก 8-10 กลีบ เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ผลกลม
Phyllanthus collinsae Craib กลีบเลี้ยงและเกสรเพศเมียติดทน (ภาพ: cultivated - RP)
วงศ์ Phyllanthaceae ไข่นกกระทา
ไม้พุ่ม อาจสูงได้ถึง 6 ม. หูใบโคนเป็นติ่ง ใบเรียงสลับระนาบเดียว รูปขอบขนาน Distylium indicum Benth. ex C. B. Clarke
ถึงรูปใบหอก ยาว 0.5-2.2 ซม. ปลายมนมีติ่งแหลม โคนเบี้ยว ก้านใบสั้นมาก วงศ์ Hamamelidaceae
ดอกออกเป็นกระจุกตามซอกใบ ไม่มีกลีบดอก ดอกเพศผู้ก้านดอกยาว 2-4 มม. ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ดอกเพศผู้และดอกสมบูรณ์เพศร่วมต้น มีขนรูปดาว
กลีบเลี้ยง 6 กลีบ รูปขอบขนาน ยาวประมาณ 1 มม. จานฐานดอกเป็นต่อม 6 ต่อม ประปรายตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ก้านใบ และช่อดอก กิ่งมีใบประดับ (prophyll)
เกสรเพศผู้ 4-6 อัน ก้านชูอับเรณูเชื่อมติดกัน ยาว 1.5-2 มม. ดอกเพศเมียก้านดอก ที่โคน หูใบร่วงเร็ว รูปแถบ ยาว 3-8 มม. ใบเรียงสลับระนาบเดียว รูปรีหรือรูปไข่กลับ
ยาว 3-4 มม. กลีบเลี้ยง 6 กลีบ รูปรีหรือรูปไข่ ยาว 1.5-2 มม. จานฐานดอกรูปเบาะ ยาว 6-14 ซม. ก้านใบยาว 0.5-1 ซม. ไม่มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยง ช่อดอกแบบ
จักมน รังไข่ย่น ก้านเกสรเพศเมียแยกเป็น 3 แฉก ยาวประมาณ 1 มม. ผลจัก 3 พู ช่อเชิงลดเป็นกระจุกหรือช่อแบบช่อกระจะสั้น ๆ ไร้ก้านช่อ ช่อดอกเพศผู้มี 3-6 ดอก
กลมแป้น ผิวย่น เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 มม. มี 2 เมล็ดในแต่ละซีก รูปสามเหลี่ยม เกสรเพศผู้ 1-8 อัน ก้านชูอับเรณูสั้น ยาวไม่เท่ากัน ช่อดอกสมบูรณ์เพศมี 4-10 ดอก
ยาวประมาณ 1 มม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ ผักหวานดง, สกุล)
รังไข่มี 2 ช่อง ขนรูปดาว แต่ละช่องมีออวุลเม็ดเดียว ก้านเกสรเพศเมีย 2 อัน รูปลิ่ม
พบที่เวียดนามตอนล่าง ในไทยพบกระจายแทบทุกภาค ยกเว้นภาคเหนือ ติดทน ผลแห้งแตกเป็น 2 ส่วน รูปรีหรือรูปไข่ ยาว 1-1.5 ซม. มีขนหนาแน่น
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และ พบที่อินเดีย พม่า ลาว และเวียดนาม ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทางภาคเหนือ
ป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 400 เมตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นตามสันเขาหรือริมล�าธาร
เอกสารอ้างอิง ในป่าดิบแล้ง และป่าดิบเขา โดยเฉพาะที่เป็นเขาหินปูน ความสูง 600-1300 เมตร
Chantaranothai, P. (2007). Euphorbiaceae (Phyllanthus). In Flora of Thailand ส่วนมากมีปุ่มหูดรูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขนาดใหญ่ เบี้ยว
Vol. 8(2): 484.
สกุล Distylium Siebold & Zucc. มี 18 ชนิด พบในเอเชีย โดยเฉพาะจีน ในไทย
มี 2 ชนิด อีกชนิด คือ D. annamicum (Gagnep.) Airy Shaw พบทีี่เวียดนาม
และภาคตะวันออกของไทยที่ชัยภูมิ ใบเรียวแคบ และผลสั้น ชื่อสกุลหมายถึงมี
ก้านเกสรเพศเมีย 2 อัน
เอกสารอ้างอิง
Phengklai, C. (2001). Hamamelidaceae. In Flora of Thailand Vol. 7(3): 403.
Zhang, Z.-Y., H. Zhang and P.K. Endress. (2003). Hamamelidaceae. In Flora
แขนงพร้อย: ใบเรียงสลับระนาบเดียว ปลายมนมีติ่งแหลม ดอกเพศผู้ออกเป็นกระจุกตามซอกใบ ผลจัก 3 พู ผิวย่น of China Vol. 9: 28.
(ภาพ: แก่งกระจาน เพชรบุรี - PK)
88
59-02-089_001-112 Ency_new5-3 i_Coated.indd 88 3/5/16 4:51 PM