Page 113 - สุขศึกษาทช21002.indd
P. 113
104
1.1. การตมกินตางน้ํา คือ การตมใหเดือดกอนแลวตมดวยไฟออน ๆ อีก 10
นาที หลังจากนั้นนํามากินแทนน้ํา
1.2. การตมเคี่ยวคือ การตมใหเดือดออน ๆ ใชเวลาตม 20-30 นาที
1.3. การตม 3 เอา 1 คือ การตมจากน้ํา 3 สวน ใหเหลือเพียง 1 สวน ใชเวลา
ตม 30-45 นาที
2. การชง เปนการสกัดตัวยาสมุนไพรดวยน้ํารอน ใชกับสวนที่บอบบาง เชน ใบ
ดอก ที่ไมตองการโดนน้ําเดือดนาน ๆ ตัวยาก็ออกมาได วิธีการชง คือ ใหนํายาใสแกวเติมน้ํา
รอนจัดลงไป ปดฝาแกวทิ้งไวจนเย็น ลักษณะนี้เปนการปลอยตัวยาออกมาเต็มที่
3. การใชน้ํามัน ตัวยาบางชนิดไมละลายน้ํา แมวาจะตมเคี่ยวแลวก็ตาม สวนใหญ
ยาที่ละลายน้ําจะไมละลายในน้ํามันเชนกัน จึงใชน้ํามันสกัดยาแทน แตเนื่องจากยาน้ํามันทา
แลวเหนียว เหนอะหนะ เปอนเสื้อผา จึงไมนิยมปรุงใชกัน
4. การดองเหลา เปนการใชกับตัวยาของสมุนไพรที่ไมละลายน้ํา แตละลายไดดีใน
เหลาหรือแอลกอฮอล การดองเหลามักมีกลิ่นแรงกวายาตม เนื่องจากเหลามีกลิ่นฉุน และหาก
กินบอย ๆ อาจทําใหติดเหลาได จึงไมนิยมกินกัน จะใชตอเมื่อกินยาเม็ดหรือยาตมแลวไมไดผล
5. การตมคั้นเอาน้ํา เปนการนําเอาสวนของตนไมที่มีน้ํามาก ๆ ออนนุม ตําแหลก
งาย เชน ใบ หัว หรือเหงา นํามาตําใหละเอียด และคั้นเอาแตน้ําออกมา สมุนไพรที่ใชวิธีการนี้
กินมากไมไดเชนกัน เพราะน้ํายาที่ไดจะมีกลิ่นและรสชาติที่รุนแรง ตัวยาเขมขนมาก ยากที่จะ
กลืนเขาไปที่เดียว ฉะนั้นกินครั้งละหนึ่งถวยชาก็พอแลว
6. การบดเปนผง เปนการนําสมุนไพรไปอบหรือตากแหงแลวบดใหเปนผง สมุนไพร
ที่เปนผงละเอียดมากยิ่งมีสรรพคุณดี เพราะจะถูกดูดซึมสูลําไสงาย จึงเขาสูรางกายได
รวดเร็ว สมุนไพรผงชนิดใดที่กินยากก็จะใชปนเปนเม็ดที่เรียกวา "ยาลูกกลอน" โดยใชน้ําเชื่อม
น้ําขาวหรือน้ําผึ้ง เพื่อใหติดกันเปนเม็ด สวนใหญนิยมใชน้ําผึ้งเพราะสามารถเก็บไวไดนานโดย
ไมขึ้นรา
7. การฝน เปนวิธีการที่หมอพื้นบานนิยมกันมาก วิธีการฝน คือ หาภาชนะใสน้ํา
สะอาดประมาณครึ่งหนึ่งแลวนําหินลับมีดเล็ก ๆ จุมลงไปในหินโผลเหนือน้ําเล็กนอย
นําสมุนไพรมาฝนจนไดน้ําสีขุนเล็กนอย กินครั้งละ 1 แกว
อยางไรก็ตาม การแปรรูปผลิตภัณฑสมุนไพร ควรแปรรูปในลักษณะอาหารหรือ
เครื่องใชที่ไมจัดอยูในประเภทยารักษา คือ ไมมีสรรพคุณในการรักษาหรือปองกัน บรรเทา
สุขศึกษา พลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : ทช21002 113
ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์

