Page 9 - คัมภีร์ฉันทศษศตร์pdf
P. 9
กรมศึกษาธิการ
วันที่ 23 ธันวาคม รัตนโกสินทร์ศก 109
ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงกราบ
ฝ่าละอองธุลีพระบาท
ด้วยข้าพระพุทธเจ้าได้รับพระราชทานพระราชหัตถเลขา ร.ที่ 1/109 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน
พระราชทานกระแสพระราชดำริห์ ทั้งการสอนวิชาแพทย์อย่างไทย แลอย่างฝรั่ง ในโรงเรียนแพทยากร นับเป็น
พระเดช พระคุณเป็นล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้
การสอนวิชาโรงเรียนแพทยากรนี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้ตั้งใจแลคิดด้วยเกล้าฯ ว่าจะให้ฝึกสอนทั้งวิชาฝรั่ง
แลยาไทย เลือกแต่ที่ดีทั้ง 2 ฝ่ายมาประสมกัน คือฝึกสอนให้นักเรียนรู้ลักษณะร่างกาย การฝึกสอนการผ่าตัด
แลเย็บบาดแผลการแยกธาตุตรวจสรรพคุณยาโดยวิธีเคมมีสตรีเป็นต้น วิชาฝรั่งเหล่านี้คิดด้วยเกล้าว่าจะ
ฝึกสอน ส่วนวิธีไทยคือสรรพยาแลวิธีพยาบาลเป็นต้น ก็จะฝึกสอนแลคิดบำรุงให้เจริญขึ้น โดยเต็มกำลัง
การที่ฝึกสอนอยู่เดี๋ยวนี้ก็อยู่ในทางนี้ มิได้ยอมให้ทิ้งวิธีไทย ข้าพระพุทธเจ้าตั้งใจจะจัดการโรงเรียนวิชา
แพทย์สนองพระเดชพระคุณโดยเต็มกำลังให้เจริญเป็นแผนสืบไปจงได้
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
ข้าพระพุทธเจ้า ดำรงราชานุภาพ ขอเดชะ
กว่าคัมภีร์ต่าง ในแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ จะได้เรียบเรียงจัดพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ได้ก็เมื่อ
พระยาพิศณุประสาทเวช (คง ถาวรเวช) หรือ “หมอคง” ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์แผนไทยในคณาจารย์ของ
“ราชแพทยาลัย” และต่อมาท่านได้เป็นผู้จัดการโรงเรียนเวชสโมสร ได้เห็นความจำเป็นว่า บรรดาราษฎรไทยที่
ป่วยไข้ต้องรู้จักวิธีรักษาตนเอง การจะเสาะแสวงหาตำราแพทย์ซึ่งมีอยู่น้อยมาคัดลอกเพื่อไปใช้เยียวยาก็เป็น
การล่าช้าไม่ทันการ พระคัมภีร์ของหลวงที่ตรวจสอบ
ถูกต้องมีอยู่แล้วก็จริง แต่ก็ใช้กันในหมู่แพทย์หลวงเท่านั้น ประชาชนทั่วไปมีโอกาสใช้น้อย อกทั้งท่าน
ี
มีความประสงค์จะเทิดทูนความศักดิ์สิทธิ์ของพระคัมภีร์แพทย์แผนไทยไว้ให้เป็นสมบัติสาธารณะแก่ลูกหลาน
เหลนไทยทั้งมวล จึงนำความกราบทูลขอประทานพระอนุญาต
สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งสภานายกหอพระสมุดวชิรญาณในเวลานั้น พิมพ ์
คัมภีร์แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ฉบับหลวง 2 เล่มจบ ให้เป็นตำราแพทย์แผนไทยของเราเองและได้รับ
พระฉันทานุมัติให้จัดพิมพ์อย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พุทธศักราช 2450นอกจากนี้ ใน
พุทธศักราช 2451 พระยาพิศณุประสาทเวชยังได้จัดพิมพ์ฉบับย่อรวม 3 เล่ม ให้เป็นคู่มือราษฎรสามัญใช้ได้
ทั่วไปด้วย ชื่อว่า “เวชศึกษา” ซึ่งเป็นตำราแพทย์ศาตร์ฉบับสังเขป
หน้า 7