Page 14 - Connect with respect: preventing gender-based violence in schools; classroom programme for students in early secondary school (ages 11-14); 2016
P. 14
ครูควรท�าอย่างไรในการเสริมสร้างสัมพันธภาพเชิงบวกกับลูกศิษย์?
มีงำนศึกษำวิจัยหลำยฉบับที่ได้สอบถำมนักเรียนโดยตรงว่ำ ครูที่มีประสิทธิภำพควรท�ำอย่ำงไรเพื่อสร้ำงสัมพันธภำพเชิงบวกกับนักเรียน [18, 30-33]
นักเรียนส่วนใหญ่ตอบว่ำครูท่มีประสิทธิภำพคือครูท่ท�ำอะไรก็เป็นระเบียบเรียบร้อย มีขอบเขตชัดเจน สนใจฟังเด็กในช้น และต้งใจท�ำหน้ำท่กำรงำน ตลอดจนเป็นผู้ให้โครงสร้ำง ออกค�ำส่ง
ั
ี
ี
ี
ั
ั
วำงระเบียบ ขณะเดียวกันก็มีควำมท้ำทำยให้ด้วย แต่ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงบุคคลก็ส�ำคัญเช่นกัน เพรำะรูปแบบควำมสัมพันธ์ของครูสำมำรถสร้ำงควำมแตกต่ำงด้ำนควำมขยันหม่นเพียร
ั
ควำมผูกพัน และกำรรับรู้คุณค่ำแห่งตนให้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ได้อย่ำงมำก ทั้งนี้ นักเรียนตอบว่ำตนจะรู้สึกมีก�ำลังใจและอยำกพยำยำมให้หนักขึ้น หำกครูมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้
• ยิ้มแย้มแจ่มใสและทักทำยนักเรียน
• แสดงควำมภำคภูมิใจในตัวลูกศิษย์
• ให้ควำมสนใจกับสิ่งที่นักเรียนท�ำ
• ฟังนักเรียนอย่ำงตั้งใจ
ค�าถาม • ให้กำรสนับสนุน ให้ควำมหวังและก�ำลังใจเมื่อเด็กก้ำวหน้ำหรือพัฒนำขึ้น
ชวนย้อนคิด • ปฏิบัติต่อเด็กนักเรียนด้วยกำรยอมรับและเอำใจใส่
• หลีกเลี่ยงรูปแบบที่รุนแรงหรือกำรลงโทษส�ำหรับแนวทำงกำรบริหำรจัดกำรนักเรียน
ท่ำนปฏิบัติพฤติกรรมใด • อธิบำยสิ่งต่ำงๆ อย่ำงชัดเจน ให้ข้อเสนอแนะและยื่นมือเข้ำช่วยเหลือเมื่อจ�ำเป็น
เป็นประจ�ำอยู่แล้วบ้ำง? • พยำยำมเข้ำใจภูมิหลังทำงวัฒนธรรมของลูกศิษย์ ตลอดจนควำมสนใจของเด็กแต่ละคน
พฤติกรรมใดบ้ำง
ื
ั
ื
ั
ที่ท่ำนต้องกำรน�ำไป เด็กส่วนใหญ่จะรู้สึกพอใจมำกหำกครูมีควำมม่นคงและยุติธรรม [18, 29] จัดกำรพฤติกรรมในช้นเรียนด้วยวิธีเชิงบวกเพ่อให้กำรเรียนกำรสอนด�ำเนินต่อไปได้อย่ำงรำบร่น [27, 34]
ปฏิบัติหรือปฏิบัติ แนวปฏิบัติหน่งท่ควรใช้ในกำรอบรมส่งสอนศิษย์ด้วยวิธีท่เคำรพใส่ใจซ่งกันและกันคือ กำรสร้ำงวินัยเชิงบวกหรือกำรจัดกำรพฤติกรรมเชิงบวก ซ่งกำรสร้ำงวินัยเชิงบวกจะมุ่งเน้นเสริมสร้ำง
ึ
ั
ี
ี
ึ
ึ
ให้บ่อยขึ้น? พฤติกรรมด้ำนบวก โดยส่งเสริมศักยภำพของเด็กให้รู้จักรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเอง แทนที่จะควบคุมควำมประพฤติด้วยกำรท�ำให้เด็กกลัว ครูควรใช้กำรสร้ำงวินัยเชิงบวกด้วย
วิธีต่อไปนี้
• อบรมสั่งสอนเด็กเรื่องสิทธิ หน้ำที่ กฎระเบียบ และมำตรฐำน
• สอนเด็กให้รู้จักวิธีควบคุมและจัดกำรอำรมณ์ของตนเอง โดยปลูกฝังทักษะชีวิตและทักษะสังคม เช่น กำรเคำรพให้เกียรติผู้อื่น กำรให้ควำมร่วมมือ กำรสื่อสำร และกระบวนกำร
แก้ปัญหำ
• ส่งเสริมให้เด็กสร้ำงกำรตระหนักรู้เรื่องผลของพฤติกรรมเชิงบวกและลบของตนเองต่อผู้อื่น
• สร้ำงแรงบันดำลใจให้เด็กมีควำมปรำรถนำที่จะเป็นคนเกรงใจและเคำรพใส่ใจผู้อื่น
• พัฒนำเด็กให้รู้และเข้ำใจว่ำกฎระเบียบและควำมคำดหวังเป็นกลไกที่ท�ำหน้ำที่ปกป้องสิทธิและควำมต้องกำรของผู้คนได้อย่ำงไร
ื
นอกจำกน้ ครูยังเป็นตัวอย่ำงแก่ศิษย์เร่องควำมเสมอภำคทำงเพศภำวะได้จำกวิธีกำรสอนของตนเอง ยกตัวอย่ำงเช่น กำรสนใจลูกศิษย์ทุกคนเท่ำๆ กัน ให้ควำมส�ำคัญกับเด็กทุกคน
ี
โดยถ้วนหน้ำ โดยไม่ค�ำนึงถึงเพศภำวะ และพยำยำมเล่ยงหรือไม่ส่งเสริมภำพเหมำรวมทำงเพศภำวะด้วยวิธีกำรใดๆ ก็ตำม ท้งในกำรปฏิบัติต่อเด็กนักเรียนและในขณะจัดกำรเรียน
ี
ั
กำรสอนเนื้อหำสำระที่ตนรับผิดชอบ
10