Page 15 - Connect with respect: preventing gender-based violence in schools; classroom programme for students in early secondary school (ages 11-14); 2016
P. 15
ครูควรพูดคุยเรื่องปัญหาความรุนแรงกับลูกศิษย์อย่างไร?
ี
ั
ี
ครูบำงคนมักเป็นกังวลว่ำกำรเอ่ยถึงประเด็นปัญหำควำมรุนแรงอำจส่งผลเชิงลบต่อเด็กท่มีประสบกำรณ์ถูกกระท�ำรุนแรง แต่กระน้นก็ตำม ครูสำมำรถท�ำให้กำรสนทนำหำรือเก่ยวกับ
ิ
ึ
ควำมรุนแรงและกำรป้องกันเป็นส่งท่ปลอดภัยและให้ผลประโยชน์แก่เด็กได้ โดยส่วนหน่งผ่ำนกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนท่วำงแผนอย่ำงรอบคอบ หรืออำจจะใช้สถำนกำรณ์สมมติแทนท ่ ี 1
ี
ี
จะเป็นกำรยกตัวอย่ำงจำกเรื่องรำวเหตุกำรณ์ของใครคนใดคนหนึ่ง กิจกรรมดังกล่ำวนี้ควรออกแบบเพื่อช่วยให้นักเรียนได้ศึกษำและส�ำรวจประเด็นปัญหำที่กล่ำวถึงนี้ ในสภำพแวดล้อม ส่วนที่
ี
ท่ปรำศจำกกำรกล่ำวหำด่ำว่ำกันและกัน อันจะก่อให้เกิดกำรมีส่วนร่วมอย่ำงจริงใจตรงไปตรงมำและท้ำทำยเพ่อน�ำไปสู่กำรเปล่ยนแปลง เป็นกิจกรรมท่ช่วยให้นักเรียนรู้จักต้งค�ำถำม
ี
ี
ื
ั
คัดค้ำนทัดทำนทัศนคติและวิธีปฏิบัติท่เป็นอันตรำย โดยไม่ต้องข้องแวะกับกำรกล่ำวหำด่ำว่ำกันและกัน หรือเอ่ยถึงเร่องรำวส่วนตัวของใครบำงคน อย่ำงไรก็ดี ส่อกำรเรียนกำรสอน
ื
ื
ี
บำงชนิดในหลักสูตรอำจเป็นเหตุให้เกิดอำรมณ์เศร้ำหรือโกรธ ไม่ว่ำจะเป็นเด็กนักเรียนหรือตัวครูผู้สอนเองก็ตำม
ื
ั
เด็กนักเรียนบำงคนอำจมีปฏิกิริยำตอบสนองในเชิงป้องกันตนเอง โดยแสดงออกด้วยกำรหัวเรำะกลบเกล่อน ท�ำเป็นเร่องตลก หรืออำจกล่ำวหำหรือปฏิเสธว่ำท้งควำมรุนแรงบนฐำน
ื
ี
ึ
เพศภำวะและผลของควำมรุนแรงประเภทนี้ไม่มีอยู่จริงหรอก หำกเกิดกรณีดังกล่ำวข้น ครูอำจบูรณำกำรวิธีปฏิบัติในกำรบริหำรจัดกำรช้นเรียนเชิงบวกท่มีประสิทธิภำพรูปแบบต่ำงๆ
ั
ั
ิ
ี
ื
ื
เพ่อแก้ปัญหำพฤติกรรมเกเรหรือเหยียดหยันน้นๆ หรืออำจให้กำรสนับสนุนเพ่มเติมหรือใช้กำรส่งต่อส�ำหรับเด็กนักเรียนท่รู้สึกว่ำส่อกำรเรียนกำรสอนยำกเกินไป ส�ำหรับเด็กท่รู้สึกว่ำ ค�าถาม
ี
ี
ื
ั
ื
ส่อกำรเรียนกำรสอนท�ำให้ตนหงุดหงิดอำรมณ์ไม่ดี ครูอำจหำกิจกรรมทำงเลือกอ่นๆ ให้หำกจ�ำเป็น รวมท้งติดตำมผลเพ่อวำงแผนปฏิบัติกำรเท่ำท่จ�ำเป็น เสริมสร้ำงควำมแข็งแกร่งให้กับ ชวนย้อนคิด
ื
กลยุทธ์ในกำรรับมือกรณีดังกล่ำว หรือส่งต่อเด็กนักเรียนคนนั้นไปยังกำรช่วยเหลือเพิ่มเติมตำมควำมจ�ำเป็น
ครูควรท�าอย่างไรเมื่อสงสัยว่าลูกศิษย์ก�าลังเผชิญความรุนแรง หรือเมื่อนักเรียนเข้าพบ โรงเรียนของท่ำน
ได้ส่งเสริมให้นักเรียน
เพื่อแจ้งเหตุการณ์ความรุนแรง? และผู้ปกครองรำยงำน
ั
นักเรียนอำจลังเลว่ำจะเข้ำหำครูหรือบุคลำกรในโรงเรียนเพ่อรำยงำนควำมรุนแรงดีหรือไม่ น่อำจเป็นเพรำะเด็กรู้สึกอับอำยขำยหน้ำ ไร้ควำมหวัง หรือไม่ม่นใจว่ำครูจะเป็นแหล่ง เหตุกำรณ์ควำมรุนแรง
ี
ื
หรือไม่?
ให้ควำมช่วยเหลือได้ดีหรือไม่นั่นเอง บ้ำงก็อำจกลัวว่ำตนจะเป็นส่วนเร่งขยำยให้ปัญหำควำมรุนแรงนั้นขยำยใหญ่โตบำนปลำยออกไปอีกก็ได้ มีวิธีกำรรำยงำน
ี
ท่รอบคอบและ
หำกท่ำนสงสัยว่ำลูกศิษย์ก�ำลังเผชิญควำมรุนแรงบนฐำนเพศภำวะแล้วน้น ถือเป็นส่งส�ำคัญย่งท่ท่ำนจะต้องเป็นผู้เร่มต้นกำรสนทนำติดตำมผลเอง แทนท่จะรอให้ลูกศิษย์เข้ำหำแต่อย่ำงเดียว ปลอดภัยไว้ส�ำหรับ
ี
ั
ี
ิ
ิ
ิ
ทั้งนี้ กำรสนทนำติดตำมผลนั้นควรกระท�ำในสภำพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว เพื่อไม่ให้เป็นกำรตีตรำลูกศิษย์ ท�ำให้เด็กอับอำย หรือตกอยู่ในอันตรำยนั่นเอง ซึ่งค�ำถำมที่ควร นักเรียนหรือไม่?
ใช้เริ่มต้นกำรสนทนำดังกล่ำวข้ำงต้นมีดังต่อไปนี้ มีอะไรอีกบ้ำงท่จะช่วย
ี
• เด็กหลำยคนมีประสบกำรณ์ถูกคุกคำมทำงเพศ ถูกกระท�ำรุนแรง หรือถูกปฏิบัติ ให้โรงเรียนสำมำรถ
• ไม่ดีด้วย แล้วเหตุกำรณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆ ของหนูบ้ำงหรือเปล่ำ? ด�ำเนินกำรในด้ำนน ี ้
ึ
• แล้วหนูล่ะ เคยเจอเหตุกำรณ์แบบนี้กับตัวเองบ้ำงไหม? ได้มำกข้น?
• เป็นเหตุกำรณ์แบบไหนเหรอ?
• เกิดขึ้นที่ไหนบ้ำง?
• เจอบ่อยไหม เคยเจอกี่ครั้งแล้ว?
• มีใครอยู่ในเหตุกำรณ์นั้นบ้ำง?
• แล้วมันส่งผลกระทบกระเทือนตัวหนูยังไงบ้ำง?
คำ�ชี้แจงและข้อแนะนำ�สำ�หรับครูอ�จ�รย์และผู้บริห�รสถ�นศึกษ� 11