Page 19 - Connect with respect: preventing gender-based violence in schools; classroom programme for students in early secondary school (ages 11-14); 2016
P. 19
แนวคิดและประเด็นส�าคัญเพื่อการท�าความเข้าใจเบื้องต้น
ื
ี
ื
ั
ั
ี
เน้อหำในส่วนน้เป็นกำรให้ค�ำแนะน�ำเบ้องต้นแก่ครูและผู้บริหำรสถำนศึกษำเก่ยวกับหัวข้อหลักของกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนรวมท้งอธิบำยว่ำวิธีกำรพัฒนำโรงเรียนท้งระบบจะสำมำรถ ส่วนที่ 1
น�ำไปใช้ในกำรป้องกันควำมรุนแรงบนฐำนเพศภำวะในบริบทสถำนศึกษำได้อย่ำงไรอนึ่ง ท่ำนสำมำรถใช้ทรัพยำกรชุดนี้ในกิจกรรมพัฒนำบุคลำกร เพื่อช่วยเสริมสร้ำงควำมพร้อมของครู
ให้สำมำรถน�ำชั้นเรียนเพื่อจัดกำรเรียนกำรสอนตำมหลักสูตรนี้ได้
ั
ประเด็นปัญหำเร่องควำมไม่เสมอภำคทำงเพศภำวะน้นอำจแตกต่ำงกันไปได้อย่ำงมำกระหว่ำงประเทศในภูมิภำคเดียวกัน หรือแม้แต่ภำยในประเทศก็ตำม ดังน้นโรงเรียนจึงควรพิจำรณำ
ื
ั
แต่ละประเด็นให้เหมำะสมสอดคล้องกับบริบทของตนเอง
การท�าความเข้าใจเรื่องเพศภาวะและบรรทัดฐานทางเพศภาวะ ค�าถาม
ั
ื
ในกำรสอนเร่องควำมรุนแรงบนฐำนเพศภำวะน้น ครูจ�ำเป็นต้องจัดหำเคร่องช่วยนักเรียนให้สำมำรถท�ำควำมเข้ำใจแยกแยะเปรียบเทียบควำมแตกต่ำงทำงชีวภำพของผู้ชำยกับผู้หญิง กับ ชวนย้อนคิด
ื
ึ
ั
ื
ี
ื
ควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรมและสังคมท่ขัดเกลำสืบต่อกันมำ ในภำษำอังกฤษน้น ค�ำว่ำ ‘sex’ ซ่งหมำยถึง ‘เพศสรีระ’ จะใช้เพ่อส่อถึงควำมแตกต่ำงทำงกำยภำพหรือชีวภำพของร่ำงกำย
ผู้ชำยกับผู้หญิง ซึ่งตำมปกติแล้วจะถูกก�ำหนดโดยยีนของแต่ละคน ส่วนค�ำว่ำ ‘gender’ ซึ่งหมำยถึง ‘เพศภำวะ’ นั้นใช้เพื่อหมำยถึงควำมแตกต่ำงที่ถูกสร้ำงขึ้นซึ่งเป็นผลมำจำกควำม บรรทัดฐำนทำงเพศ
คำดหวังทำงสังคมวัฒนธรรมและบรรทัดฐำนเกี่ยวกับกำรรับรู้ว่ำ “กำรเป็นผู้ชำย” หรือ “กำรเป็นผู้หญิง” มีลักษณะอย่ำงไร ภำวะในชุมชนท้องถิ่น
ของท่ำนมีอะไรบ้ำง?
ในหลำยๆ บริบท ผู้ชำยมักถูกคำดหวังว่ำจะต้องเข้มแข็ง มีก�ำลังอ�ำนำจ และเป็นผู้ควบคุม ส่วนผู้หญิงก็จะต้องหัวอ่อน ว่ำนอนสอนง่ำย อยู่ในโอวำท แต่ส�ำหรับคนข้ำมเพศแล้ว ควำมเป็นตัวตน บรรทัดฐำนเหล่ำนี้
จะมีลักษณะที่ไม่เป็นแบบแผนตำมบทบำททำงเพศที่ก�ำหนดขึ้นจำกเพศทำงชีวภำพของตนเอง ยกตัวอย่ำงเช่น ผู้หญิงข้ำมเพศ (คนข้ำมเพศจำกผู้ชำยเป็นผู้หญิง) คือบุคคลที่มีเพศสรีระ ส่งผลแง่ลบอย่ำงไร?
เม่อแรกเกิดเป็นผู้ชำยแต่ระบุตัวตนตำมบรรทัดฐำนทำงเพศค่อนไปทำงควำมเป็นหญิงมำกกว่ำ ท้งน้อำจรวมถึงรูปลักษณ์ทำงกำยภำพ กำรแสดงควำมเป็นตัวตน และบทบำทในบ้ำนและ บรรทัดฐำนและ
ั
ี
ื
ที่ท�ำงำน ซึ่งตรงกันข้ำมกับค�ำว่ำ ‘intersex’ ที่หมำยถึง ‘เพศก�ำกวม’ ใช้เพื่อจ�ำแนกบุคคลที่มีเพศก�ำเนิดไม่ชัดเจนหรือมีลักษณะทำงกำยวิภำคของเพศสรีระภำยในและ/หรือภำยนอก ควำมคำดหวังเหล่ำนี้
มีบทบำทต่อกำรแสดง
ั
ี
ปนกันท้งเพศชำยและเพศหญิงต้งแต่ก�ำเนิด คนเพศก�ำกวมอำจระบุตัวตนว่ำเป็นผู้ชำยหรือผู้หญิงหรือไม่ใช่ท้งสองเพศก็ได้ โดยสถำนภำพเพศก�ำกวมนั้นจะไม่เก่ยวข้องกับวิถีทำงเพศหรือ พฤติกรรมของนักเรียน
ั
ั
อัตลักษณ์ทำงเพศภำวะแต่อย่ำงใด เพรำะคนเพศก�ำกวมก็ต้องมีประสบกำรณ์ด้ำนวิถีทำงเพศหรืออัตลักษณ์ทำงเพศภำวะในลักษณะเดียวกันกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนเพศก�ำกวม อย่ำงไรบ้ำง?
ควำมแตกต่ำงทำงเพศภำวะด้ำนสุขภำพกำรศกษำและเศรษฐกิจหลำยๆประกำร ไม่ได้มีต้นก�ำเนิดในทำงชีวภำพแต่จริงๆแล้วเก่ยวข้องกับอิทธิพลของบรรทัดฐำนทำงเพศภำวะกับ
ึ
ี
แนวปฏิบัติเชิงพฤติกรรมและเชิงสถำบัน ค�ำอธิบำยควำมแตกต่ำงแบบง่ำยปรำกฏดังแสดงในตำรำงที่ 3 ด้ำนล่ำงนี้
คำ�ชี้แจงและข้อแนะนำ�สำ�หรับครูอ�จ�รย์และผู้บริห�รสถ�นศึกษ� 15