Page 114 - BookHISTORYFULL.indb
P. 114
ี
แม้ว่าโครงงานจะเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเอง
ให้งอกงามในทุกมิติตามศักยภาพ และความสนใจ แต่พบว่า ครูประวัติศาสตร์ยังคง
ื
ี
แสดงความห่วงใยในข้อมูลเน้อหามากกว่าทักษะ กระบวนการและการสร้างเจตคติท่ถูกต้อง
ต่อความเป็นไทย วัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาไทย ส่วนศึกษานิเทศก์ผู้รับผิดชอบ
ู
็
ั
ิ
ี
ประวติศาสตร์ กยังคงผกมัดตวเองกับกรอบแนวคดทางการศึกษา ทฤษฎ และรูปแบบ
ั
ที่ตายตัว ขณะที่บริบทของสังคมในแต่ละพื้นที่ แตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมและเวลา
ซ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของประวัติศาสตร์ จึงเห็นว่าผู้สอนประวัติศาสตร์น่าจะย้อนกลับ
ึ
มาพิจารณาการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในโครงงานประวัติศาสตร์ให้ชัดเจนเสียก่อน
ี
ี
่
ั
ิ
อนทจรง วธการทางประวตศาสตร นน หลกสตรกาหนดใหฝกทกษะกระบวนการ
ิ
�
ู
ั
ั
ึ
้
ิ
์
้
ั
ั
ั
ั
ั
สืบค้นเรื่องราวตามข้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์ ต้งแต่ช้น ป.๑ (สอบถามและ
ื
ื
ั
เล่าเร่อง) และฝึกฝนต่อเน่องทุกช้นปีจนถึงช้น ม.๓ “ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์
ั
ในการศึกษาเร่องราวต่างๆ ท่ตนสนใจ” และ ม.๔-๖ ท่ให้ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์
ื
ี
ี
สร้างองค์ความรู้ใหม่ในโครงงานทางประวัติศาสตร์
ั
อันท่จริง วิธีการทางประวัติศาสตร์น้น แต่เดิมผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ในระดับ
ี
ึ
ั
ปริญญาโทข้นไป โดยจะใช้ทุกข้นตอนเป็นกระบวนการหลักในการสืบค้นเร่องราวในอดีต
ื
ู
ทตนเองต้องตงประเดนศกษา “อะไร” ทไหน ช่วงเวลาใด” โดยส่วนใหญ่เน้นอย่ท ่ ี
ี
่
ี
ั
็
้
ึ
่
การวิเคราะห์เอกสารท่เก่ยวข้องกับเร่องท่จะศึกษาให้ครอบคลุมครบถ้วน ส่วนหลักฐานอ่นๆ
ี
ี
ื
ี
ื
ั
ู
ื
น้น มักใช้เป็นสาระประกอบเพ่อตรวจสอบความถกต้องของเอกสาร เช่น หลักฐาน
ทางศิลปกรรม พิธีกรรม สถานที่จริง การสัมภาษณ์บุคคล เป็นต้น
�
สาหรับการเรียนรู้ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในปัจจุบันวิธีการ
ทางประวัติศาสตร์ได้เป็น “ทักษะกระบวนการ” หนึ่งในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เช่นเดียว
กับทักษะในการคิดวิเคราะห์ การสรุป การตีความและทักษะอื่นๆ ที่หลักสูตรการศึกษาขั้น
ื
พ้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นพ้นฐาน พุทธศักราช
ั
ื
๒๕๕๑ ได้ก�าหนดการเรียนรู้ของผู้เรียนในทุกชั้นปีต่อเนื่องจนจบหลักสูตร โดยแต่ละชั้นปี
จะได้ฝึกฝนทักษะแต่ละขั้นตอน (ไม่ใช่ทุกขั้นตอน) ดังนี้
ป.๑ : สอบถามและเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัว
ี
ึ
ี
ี
�
ป.๒ : ใชหลักฐานท่เก่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว ลาดับเหตุการณ์ท่เกิดข้น
้
�
ป.๓ : ระบุหลักฐานและแหล่งข้อมูลเก่ยวกับโรงเรียนและชุมชน และลาดับ
ี
เหตุการณ์ส�าคัญที่เกิดขึ้น
ป.๔ : แยกแยะประเภทหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถิ่น
ป.๕ : สืบค้นความเป็นมาของท้องถ่นโดยใช้หลักฐานท่หลากหลาย รวบรวม
ี
ิ
ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และแยกแยะความแตกต่างระหว่างความจริงกับ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น
112