Page 116 - BookHISTORYFULL.indb
P. 116
ี
โครงงานทางประวัติศาสตร์ จึงหมายถึง กิจกรรมการเรียนรู้ท่เปิดโอกาสให้
ี
ื
ื
ื
ผู้เรียนได้สืบค้นเร่องราวในอดีตในสังคมมนุษย์ในพ้นท่ใดพ้นท่หน่ง ช่วงเวลาใดช่วงหน่ง
ึ
ี
ึ
(มิติของเวลา) ตามความสนใจและตามศักยภาพตน โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์
ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์
๑. ตั้งประเด็นศึกษา
๒. รวบรวมข้อมูลจากหลักฐาน
๓. วิเคราะห์ตรวจสอบหลักฐาน
๔. การตีความหลักฐาน
๕. การประมวลสังเคราะห์ข้อมูล
๖. การน�าเสนอผลการศึกษา
องค์ประกอบของโครงงานทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย ขอบเขตของสังคม
มนุษย์ในพื้นที่ศึกษา ช่วงเวลาที่ก�าหนดชัดเจน ข้อมูลจากหลักฐานประเภทต่างๆ ที่มากพอ
ในการวิเคราะห์ตีความและกระบวนการสืบค้นตรวจสอบความถูกต้องของข้อเท็จจริง
ผลงานของการสืบค้นนี้ เราเรียกว่า องค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร ์
�
ั
โดยท่วไปการทาโครงงานไม่ว่าจะเป็นรายวิชาใดก็ตามจะเป็นกระบวนการศึกษา
ี
ี
�
ิ
ค้นคว้าของผู้เรียนท่มีลักษณะเฉพาะท่แตกต่างจากการทารายงานหลายประการ เร่มต้นคือ
ี
ประเด็นศึกษาท่ต้องการสืบค้น ต้องมาจากความสนใจของผู้เรียน (ไม่ใช่ของครู) ผู้เรียน
ึ
ื
ต้องคิดและเลือกประเด็นศึกษา (ซ่งจะพัฒนาเป็นหัวเร่องของโครงงาน) ด้วยตนเองว่าอยาก
จะศึกษาเรื่องอะไร ท�าไมถึงอยากศึกษา (มีความส�าคัญอย่างไรต่อสังคม)
ี
ี
ื
นอกจากน้ การสืบค้นเร่องราวอะไรก็ตามควรเป็นเร่องท่ใกล้ตัวผู้เรียน มีความ
ื
ื
ี
อยากรู้อยากเห็นรากเหง้าของเร่องราวท่ใกล้ตัว เช่น นักเรียนเตรียมอุดมศึกษาสนใจ
ึ
ิ
ิ
ฝักต้อยต่ง เพราะในบริเวณโรงเรียนมีต้นต้อยต่งข้นอยู่กระจัดกระจาย นักเรียนในโรงเรียน
ี
ึ
�
มัธยมแห่งหน่งของอาเภอศรีสัชนาลัยสนใจการทอผ้าของกลุ่มแม่บ้านท่ครอบครัวของ
พวกเขาเป็นสมาชิก
ิ
ส่งหน่งท่ควรตระหนัก คือ “ความเหมาะสมกับระดับความรู้ความสามารถของ
ึ
ี
ผู้เรียน” เพราะโครงงานทางประวัติศาสตร์ไม่ใช่ “วิทยานิพนธ์ประวัติศาสตร์” ของนักศึกษา
ปริญญาโทท่จะต้องใช้ความสามารถในการใช้ภาษาโบราณหรือภาษาอังกฤษ ภาษาฝร่งเศส
ี
ั
ในการศึกษาเอกสารชั้นต้น ดังนั้น ผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษา จึงไม่ควรเลือกที่จะสืบค้น
ิ
เร่องราวท่ไกลตัว เช่น สังคมไทยในสมัยอยุธยา การสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย เพราะส่งท ี ่
ี
ื
ี
จะสืบค้นได้จะเพียงรวบรวมข้อมูลท่มีผู้ศึกษาไว้ก่อนเท่าน้น ไม่น่าจะเป็นความรู้ใหม่
ั
114