Page 37 - Efavirenz WHO PQ: A case study of a public-private collaboration
P. 37
Efavirenz WHO PQ: กรณีศึกษาความร่วมมือรัฐ-เอกชน ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพ | 20
มาตรา 40.2 อนุญาตให้สมาชิก WTO สามารถระบุ “การปฏิบัติตามกฎหมายหรือเงื่อนไข
การออกใบอนุญาตซึ่งอาจเป็นการใช้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในทางที่ผิด ซึ่งส่งผลเสียต่อการ
แข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง” ดังนั้นจึงช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถใช้มาตรการในการควบคุมหรือ
ป้องกันการปฏิบัติที่เข้มงวดในแต่ละกรณี โดยที่กรณีดังกล่าวถือเป็นการใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
ที่ไม่ถูกต้องซึ่งมีผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง มาตราดังกล่าวได้ยกตัวอย่างการปฏิบัติที่
อาจถือว่าเป็นการจ ากัดการแข่งขัน ซึ่งรวมถึง: (i) เงื่อนไขการให้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว (เช่น ข้อก าหนดที่
ก าหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องถ่ายโอนการปรับปรุงเทคโนโลยีที่ได้รับอนุญาตกลับให้แก่ผู้อนุญาต
เท่านั้น); หรือ (iii) การออกใบอนุญาตแบบเหมารวมภาคบังคับ (เช่น ก าหนดให้ผู้รับใบอนุญาตต้องซื้อ
วัตถุดิบหรือเทคโนโลยีทุกอย่างจากผู้อนุญาต ทั้งที่ผู้รับอนุญาตไม่ต้องการ) เป็นต้น
มาตรา 40.3 ได้สร้างระบบการให้ค าปรึกษาระหว่างสมาชิก โดยสมาชิกอาจขอค าปรึกษา
ื่
จากสมาชิกรายอนหากเชื่อว่าประเทศสมาชิกอนนั้นมีการปฏิบัติที่เป็นการละเมิดกฎหมายและ
ื่
ื่
ข้อบังคับของสมาชิกที่ร้องขอและเพอความปลอดภัยในการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวโดยปราศจาก
อคติต่อการกระท าใด ๆ ภายใต้กฎหมายและเพอเสรีภาพในการตัดสินใจขั้นสูงสุดของสมาชิก สมาชิก
ื่
ที่ได้รับการร้องขอการปรึกษาหารือจะต้องพจารณาอย่างเต็มความเห็นอกเห็นใจและจะต้องให้โอกาส
ิ
ที่เพียงพอส าหรับการปรึกษาหารือกับสมาชิกที่ร้องขอและจะให้ความร่วมมือผ่านการจัดหาข้อมูลที่ไม่
ื่
เป็นความลับซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะในเรื่องที่เป็นปัญหา และข้อมูลอน ๆ ที่สมาชิกมีอยู่ภายใต้
กฎหมายภายในประเทศและเพอหาข้อสรุปที่น่าพอใจร่วมกันเกี่ยวกับการปกป้องความลับของสมาชิก
ื่
ที่ร้องขอ
มาตรา 66.2 ของความตกลงทริปส์ ยังก าหนดข้อผูกพนเฉพาะส าหรับประเทศที่พฒนาแล้ว
ั
ั
ื่
ื่
เพอใช้มาตรการเพอส่งเสริมและสนับสนุนการถ่ายโอนเทคโนโลยีไปยังประเทศที่พฒนาน้อยที่สุด
ั
(LDCs) มาตรา 66.2 ระบุว่า“ประเทศสมาชิกที่พัฒนาแล้วจะให้สิ่งจูงใจแก่วสาหกิจและสถาบันใน
ิ
ดินแดนของตนเพื่อจุดประสงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการถ่ายโอนเทคโนโลยีให้แก่ประเทศ
สมาชิก LDCs เพื่อให้สามารถสร้างฐานเทคโนโลยีที่เหมาะสมได้” อย่างไรก็ตาม พบว่าประเทศ
ก าลังพฒนาและประเทศก าลังพฒนาน้อยที่สุดได้สังเกต และเตือนภัยบ่อยครั้งในคณะมนตรีการค้า
ั
ั
ระหว่างประเทศขององค์การการค้าโลกซึ่งติดตามการด าเนินงานของความตกลงทริปส์ เกี่ยวกับความ
จริงที่ว่าประเทศทพฒนาแล้วไม่ปฏิบัติตามมาตราดังกล่าว เช่น คณะผู้แทนอินเดียได้กล่าวว่า“มีความ
ั
ี่
พยายามเล็กน้อยที่จะใช้บทบัญญัตินี้ (ข้อ 66.2) ท าให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิผลของข้อตกลง
ื่
เพออานวยความสะดวกในการถ่ายทอดเทคโนโลยี” และเนื่องจากบทบัญญัตินี้มีความส าคัญมาก
ั
ส าหรับการพฒนาเทคโนโลยีของประเทศก าลังพฒนาและประเทศที่พฒนาน้อยที่สุด ท าให้
ั
ั
ความส าคัญของข้อผูกพนภายใต้มาตรา 66.2 ได้รับการยืนยันอกครั้งในวรรคที่ 11.2 ของการ
ั
ี
ด าเนินการตามการตัดสินใจของการประชุมระดับรัฐมนตรีของ WTO ในช่วงเริ่มการเจรจารอบโดฮา