Page 75 - หลักสูตร M1 ( Recruiting and Selection )
P. 75
Pacesetter
่
็
บันทึกของคุณควรเปนระเบียบและมีความหมายพอเข ้าใจได ้เพือให ้คุณนาไปใช ้งานต่อได ้
ํ
แต่ไม่จาเปนต ้องจดให ้คนอืนเข ้าใจด ้วย
่
็
ํ
่
การหลีกเลียงความผิดพลาดในการตัดสิน
่
์
ํ
เมือคุณทาการสัมภาษณและทบทวนบันทึกของคุณเรียบร้อยแล ้ว คุณก็พร้อมจะทาการประเมิน
ํ
่
็
ั
ซึงเปนส่วนทีคุณต ้องระมัดระวังเปนพิเศษเพือไม่ให ้เกิดปญหาทีพบได ้บ่อย
่
็
่
่
ั
“ ภ าวะ ก าร ร บ รู้ แ บ บ เ หม าร วม (H al o E ffe c t ) ” -
่
บ า ง ที ข ้อ ผิ ด พ ล าด ใ น ก าร ตั ดสิ น ที พ บ ไ ด ้บ่ อ ย ที สุ ดแ ล ะ ห ลี ก เลี ย ง ไ ด ้ย าก ที สุ ดก็ คื อ
่
่
่
ั
ั
“ ภ าวะ ก าร ร บ รู้แ บ บ เ ห ม า ร วม ” ห รื อ อี ก น ยห นึ งคื อ แ น ว โน้ ม ใ น ก า ร ป ล่ อ ย ใ ห ้
่
่
่
ความประทับใจหรือความไม่ประทับใจโดยรวมทีมีต่อบุคคลหนึงส่งผลต่อการประเมินผลคนคนน้นในอีก
ั
่
่
่
เรื่องหนึ่ง (หรือการทีความคิดของคนๆ หนึงทีมีต่ออีกคนหนึงในภาพรวม ถูกบดบังโดยลักษณะพิเศษนี ้
่
่
ั
็
่
ั
เสียหมด ทาให ้มองไม่เหนส่วนอื่น) ตัวอย่างเช่น ผู้จดการอาจประเมินนกกีฬาทีมีชือเสียงโด่งดังสูงเกินไป
ํ
่
ั
่
เนืองจากผู้จดการมองเหนเฉพาะสิงดีๆ รอบตัวพวกเขา
็
แนวโน้มเช่นนีเกิดขึนในทุกช่วงเวลาในการบริหารงาน ตัวอย่างเช่น ผู้จดการบางคนอาจประเมินตัวแทน
ั
้
้
่
่
่
่
ค น ห นึ งซึ งมี ยอ ด ข า ย ที ดี ว่ า “ ห า ลู ก ค ้ า ผู้ มุ งห วั งไ ด ้ ดี เ ยี ยม ”
่
ํ
ทั้ งที ห า ก ท า ก า ร ต ร ว จ ส อ บ บั นทึ ก ข อ งตั ว แ ท น อ ย่ า งล ะ เ อี ยด แ ล ้ ว
่
็
ก็จะพบว่าแท ้จริงตัวแทนดังกล่าวเปนผู้ทีหาลูกค ้าได ้แย่มาก “ภาวะการรบรู้แบบเหมารวม” นี้
ั
่
จะหายไปก็ต่อเมือผู้จดการทาการตรวจสอบบันทึกการหาลูกค ้าผู้มุงหวังอย่างละเอียดเท่าน้น แม ้กระทัง
ั
ํ
่
ั
่
่
ั
่
ในกรณีทีตรวจสอบแล ้ว ผู้จดการก็อาจลืมบันทึกจริงๆ ไปและคิดว่าตัวแทนคนดังกล่าวเปน “นกหาลูกค ้าทีดี”
่
็
ั
็
่
้
็
ในอีก หก เ ดือ นต่อ ม าก็ ไ ด ้ ตั วอ ย่างนีเ ป นตั วอ ย่างทีสุด โต่ง แต่ก็ แส ด งให้เ ห นว่าผ ลจ า ก
“ภาวะการรบรู้แบบเหมารวม” น้นทรงพลังเพียงใด
ั
ั
โดยทัวไปแล ้ว ยิงเรามีข ้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงในด ้านหนึงน้อยเท่าไร “ภาวะการรบรู้แบบเหมารวม”
่
ั
่
่
ั
่
ก็ ยิ งมี แ น ว โน้ ม ที จ ะส่ งผ ล ต่ อ ก า ร ตั ด สิ น ข อ งเ ร า ม า ก เ ท่ า น้ น
่
่
ํ
ให ้เจาะจงอย่างชัดเจนว่าคุณกาลังพยายามจะตัดสินอะไรและคุณใช ้ หลักฐานอะไรในการตัดสินเพือลดผลทีเ ่
ั
กิดจาก “ภาวะการรบรู้แบบเหมารวม”
่
่
ั
่
ั
คนทีเก่งไปหมดทุกด ้านน้นหายาก ดังน้น หากคุณประเมินคนคนหนึงไว ้สูงในทุกด ้านทีคุณพิจารณา
ํ
ก็เปนไปได ้ว่าคุณอาจปล่อยให ้ “ภาวะการรบรู้แบบเหมารวม” ทาให ้การตัดสินของคุณลาเอียง
ํ
็
ั
ํ
และในทางเดียวกัน หากคุณประเมินคนคนหนึงไว ้ต่าในทุกด ้าน การจะสงสัยว่าคุณได ้ปล่อยให ้
่
ั
ค วาม ไ ม่ ป ร ะ ทั บ ใ จ โ ด ย ร วม ส ร้ าง “ ภ า ว ะ ก า ร ร บ รู้ แ บ บ เ หม าร วม ”
็
ที ไ ม่ ดี ใ ห ้ กั บ ก า ร ตั ด สิ น ข อ งคุ ณ ก็ เ ป น สิ งที ส ม เ ห ตุ ส ม ผ ล
่
่
่
ํ
่
่
่
ก าร ที บุ คคล หนึ ง จ ะ มี ผ ล ก าร ป ร ะ เ มิน ที สู ง หรื อ ต่ าไ ป ห ม ดใ น ทุ ก ด ้า น ไ ม่ ใ ช่ เ รื อ ง ป ก ติ
่
่
ํ
้
ให ้ตรวจสอบตัวคุณเองในประเดนนีหลังจากทีทาการตัดสินเรียบร้อยแล ้ว
็
อ ย่ า ตั ด ส ิ น โ ด ย ไ ม ่ ม ี ข ้ อ เ ท ็ จ จ ร ิ ง -
ข ้อ ผิ ดพ ล า ดอี ก ข ้อ ที พ บ ไ ด ้บ่ อ ย คื อ ก า ร ตั ดสิ น โ ดย ไ ม่ มี ข ้อ เ ท จ จ ริ ง อ ย่ า ง เพี ย ง พ อ
็
่
้
ํ
ั
ั
่
“ ฉ น คิ ดว่ าบุ คคล นี ท า ง า น ไ ด ้ ดี เพ ร า ะ ฉ น ยั ง ไ ม่ เจ อ อ ะ ไ ร ที ไ ม่ ดี เล ย ”
ั
ํ
้
ทั ศ น ค ติ เ ช่ น นี ส่ ง ผ ล ใ ห ้ ก าร ป ร ะ เ มิ น มี ความ ส ะ เพ ร่ าแ ล ะ ไ ม่ มี น าห น ก
้
่
ํ
่
ซึง อ าจ น าไ ป สู่ ส ถ าน ก าร ณ ทีผ ล ก าร ป ร ะ เ มินร ะ ดั บ ต่ า ก ว่ า “ เ ยี่ย ม ” ที่แ ท ้จ ริง คือ “ แ ย่ ”
ํ
์
สถานการณนีเปนสถานการณทีไร้เหตุผลซึงไม่สามารถแยกแยะใครได ้เลยนอกจากคนที่อยูในระดับดีและคน
์
่
่
้
์
็
่
ทีแย่อย่างเหนได ้ชัด คุณควรพิจารณาแยกแยะใหม่เพือให ้คุณตัดสินได ้ว่าบุคคลใดทีมีความสามารถสูงกว่า
็
่
่
่
่
่
ั
่
ั
บางทีเราก็มีแนวโน้มทีจะประเมินคนทีเรารู้จกดีและชอบสูงเกินไป โดยปจจยทีเกี่ยวข ้องมีอยูสองประการ
ั
่
ประการแรกคือ เมือเรารู้จกบุคคลน้น เราจะมีแนวโน้มทีจะเก็บข ้อมูลได ้น้อยกว่าทีควร โดยมีการสังเกตว่า
่
่
่
ั
ั
13