Page 32 - รายงานวิจัยชั้นเรียนปี 2562 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
P. 32
6.5 ข้อดีและข้อจ ากัด (สุวิทย์ มูลค า และ อรทัย มูลค า. 2545 : 175)
ข้อดี
1. ผู้เรียนมีความเอาใจใส่รับผิดชอบตัวเองและกลุ่มร่วมกับสมาชิกอื่น
2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนที่มีความสามารถต่างกันได้เรียนรู้ร่วมกัน
3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้น า
4. ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกและเรียนรู้ทักษะทางสังคมโดยตรง
5. ผู้เรียนมีความตื่นเต้น สนุกสนานกับการเรียนรู้
ข้อจ ากัด
1. ถ้าผู้เรียนขาดความเอาใจใส่และความรับผิดชอบจะส่งผลให้ผลงานกลุ่มและการ
เรียน รู้ไม่ประสบความส าเร็จ
2. เป็นวิธีการที่ผู้สอนจะต้องเตรียมการ ดูแลเอาใจใส่ในกระบวนการเรียนรู้ของ
ผู้เรียน อย่างใกล้ชิดจึงจะได้ผลดี
3. ผู้สอนมีภาระงานมากขึ้น
7. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ภาวศุทธิ ยศธร (2543 : บทคัดย่อ) ได้พฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้การสอนแบบ
ั
ร่วมมือกันเรียนรู้ตามวิธี STAD ด้วยบทเรียนเล่มเล็กในวิชาสังคมศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี
ที่ 3 และการพฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอน รูปแบบการเรียนการสอนที่พฒนาขึ้น
ั
ั
ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเสนอบทเรียนต่อนักเรียนทั้งชั้น ประกอบด้วยขั้นน า ขั้นสอน (โดย
ใช้บทเรียนเล่มเล็ก) ขั้นสรุป ขั้นวัดผล 2) ขั้นศึกษากลุ่มย่อย โดยศึกษาจากบัตรค าสั่งบัตรเนื้อหา
บัตรกิจกรรม และบัตรเฉลย 3) ขั้นทดสอบย่อย เป็นการทดสอบเพอวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลัง
ื่
สิ้นสุดแต่ละวงจร ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบดังกล่าวมีผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนดไว้คือ ร้อยละ 70 และนักเรียนมีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น มีความ
รับผิดชอบต่อตนเองและกลุ่ม รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
วราภรณ์ บรรติ (2543 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและพฤติกรรมการ
ท างานกลุ่มในกลุ่มวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยการสอน
แบบร่วมมอกันด้วยเทคนิค STAD ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ ขั้นเตรียมผู้เรียน ขั้นสอน ขั้นกิจกรรม
ื
กลุ่ม ขั้นทดสอบ ขั้นสรุป ประเมินผลและมอบรางวัล ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนโดยการสอน