Page 49 - รายงานประจำปี 2562
P. 49
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล
พยาบาล ไม่ใช่บ้านพักอยู่อาศัยปกติเหมือนบ้านเช่า หรือ เวลาเรียนกฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรม แค่ว่าคดีใด
ึ
ี
ี
บ้านพักข้าราชการตามตำาแหน่งหน้าท่ แต่เป็นบ้านท่จัดข้น อยู่ในอำานาจศาลจังหวัด ศาลแขวงก็มีปัญหากันเอง
็
มาเพื่อให้เข้าเวร หรือเตรียมพร้อมในการระดมพล เช่นนี้ ต่างกว่าไม่อย่ในอำานาจของตวเอง เม่อมีศาลเยาวชนและ
ู
ื
ั
ี
ื
ี
ื
ถือว่าเป็นเร่องท่เก่ยวเน่องกับการบริการสาธารณะ ครอบครัวขึ้นมา ชาวบ้านไปฟ้องศาลจังหวัด ผู้พิพากษา
ถ้าปล่อยให้กระจัดกระจายกันอยู่ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ศาลจังหวัดบอกว่าอยู่ในอำานาจศาลเยาวชนฯ ในคดีแบบ
เกิดภัยพิบัติกว่าจะระดมพลมาได้ ก็จะเกิดภัยพิบัติจน เดียวกันคู่ความมาฟ้องศาลเยาวชนฯ ผู้พิพากษาบอกว่า
ี
ื
ี
ื
ี
ี
ยากท่จะดูแล จึงเห็นว่ากรณีน้เก่ยวเน่องกับเร่องท่บริการ อยู่ในอำานาจการพิจารณาของศาลจังหวัด สงสารชาวบ้าน
ึ
ี
สาธารณะอยู่เหมือนกัน ซ่งจะต่างอย่างชัดเจนเก่ยวกับ เมื่อมีศาลปกครองเกิดขึ้นมา เมื่อมาฟ้องยังศาลยุติธรรม
ี
ั
บ้านพักอาศัยท่เป็นบ้านเช่า หรือบ้านประจำาตำาแหน่ง ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมบางคร้งก็ยกปัญหาเร่อง
ื
ของข้าราชการ เขตอำานาจศาลข้นเองว่าอยู่ในอำานาจของศาลปกครอง
ึ
่
่
้
ิ
ู
ื
ประธาน ความเห็นของท่านบรรจงศักดิ์มีความ เมอฟองยังศาลปกครอง ผ้พพากษาศาลปกครองบางทาน
ชัดเจนในทางวิชาการพอสมควร ความจริงแล้วไม่ใช่ บอกว่าอยู่ในอำานาจของศาลยุติธรรม สรุปแล้วความ
ี
เฉพาะกฎหมาย ทุกอย่างในโลกน้มีรายละเอียดแต่ละ เดือดร้อนอยู่กับชาวบ้าน ผมได้แจ้งในท่ประชุม
ี
ึ
ี
กรณีจะไม่เหมือนกัน เหมือนภาษาท่ศาลยุติธรรมนิยม คณะกรรมการวินิจฉัยว่า เจตนาของการมีศาลข้นมา
ี
ั
ั
ิ
ื
่
ุ
ิ
ู
ื
่
ี
ั
ิ
ำ
ำ
ใช้กันว่าคาพพากษาศาลฎีกาทโจทก์หรอจาเลยอ้างน้น วตถประสงค์หลกเพอพจารณาพพากษาคดให้ค่ความ
ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ยกตัวอย่าง กรณีเรื่องบ้านพัก ได้รับความยุติธรรม คู่ความไม่น่าจะต้องมาปวดหัวว่าม ี
ิ
ึ
ี
จากท่ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดฯ ใน ๒ ปี ข้อเท็จจริงเพ่มข้นจากเดิม ทนายความหรืออัยการท่จะ
ี
ี
ั
ท่ผ่านมา ถ้าก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ เราบอกว่าเป็น ฟ้องแทนรัฐก็ต้องคิดก่อนว่าจะไปฟ้องศาลใด ท้งทนาย
ี
ื
สัญญาทางแพ่งอยู่ในอำานาจศาลแพ่ง ถ้าเป็นสถานท่ทำาการ และอัยการเป็นบุคคลที่น่าสงสาร เพราะว่าเม่อนำาคด ี
ี
บอกว่าเป็นสัญญาทางปกครองอยู่ในอำานาจศาลปกครอง ไปที่ศาล ศาลแต่ละท่ก็บอกว่าไม่ได้อยู่ในอำานาจของตน
ี
แต่สถานท่ราชการบางแห่ง เช่น กองกำากับการของ เคยพยายามมอบหมายนโยบายให้ผู้พิพากษา
ี
ี
ตำารวจอรินทราชไม่ได้ให้บริการประชาชนเข้าแจ้งความ ศาลยุติธรรมว่า ถ้าคู่ความมาฟ้องคดีท่ศาลยุติธรรม อย่าได้
แต่เป็นกรณีเม่อมีเหตุสำาคัญก่อการร้ายก็ส่งตำารวจ สงสยในอำานาจตวเองให้รับพิจารณาคดี แต่ถ้าคู่ความ
ั
ั
ื
ของหน่วยน้ ถ้าเป็นเหตุฉกรรจ์หรือเหตุสำาคัญก่อการร้าย อีกฝ่ายสงสัยถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยก็ต้องส่งไปให้
ี
ไม่ได้ใช้ตำารวจปกติ คิดต่อไปอีกว่าท่ทำาการของทหาร คณะกรรมการฯ พจารณา และไม่ทราบว่าส่วนราชการ
ิ
ี
หน่วยทหารทังหลายไม่ไดติดต่อกับประชาชนเลย คนท่จะ ต่าง ๆ ได้เคยขอให้ศาลปกครองส่งวิทยากรไปบรรยาย
้
้
ี
เข้ามาในกองทหารเฉพาะทหารด้วยกัน ก็จะย่อยลงไปอีก เรื่องนี้กับหน่วยงานราชการต่าง ๆ ว่าคดีไหนเป็นสัญญา
แม้แต่เรองบานพกขาราชการท่านบรรจงศกดยังสามารถ ทางปกครองคดีไหนไม่เป็นสัญญาทางปกครองหรือไม่
ื
่
ั
้
์
ิ
ั
้
แยกย่อยเป็นบ้านแบบอยู่ธรรมดา เหมือนบ้านพักศาล เพ่อให้ส่วนราชการได้เข้าใจ จากประสบการณ์ท่ทำางานมา
ี
ื
ี
ี
อัยการ ของทหาร หรือบ้านพักแบบมาประจำาเวร เช่น ๒ ปี คดีท่ขึ้นมาสู่คณะกรรมการมักจะเป็นคดีท่ผู้ถูกฟ้องคด ี
ี
ี
ั
ิ
ี
สถานดบเพลงต้องมีท่นอนให้เจ้าหน้าท่สามารถพร้อม ซ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานปกครอง
ึ
ทำาการตลอดเวลา เราในฐานะผู้ใช้กฎหมายไปวางหลัก ส่วนท้องถิ่นท่มีสถานะเป็นราชการ มักจะอ้างว่าคดีไม่อยู่
ี
ี
ึ
ั
่
ี
ำ
ั
ู
้
กฎหมายอนใดอนหนงว่าถ้ามอย่างนอย่ในอานาจของ ในอำานาจของศาลท่รับฟ้อง โดยมาฟ้องยังศาลยุติธรรม
ี
ี
ึ
ึ
ศาลหน่งถ้าไม่มีอย่างน้อยู่ในเขตอำานาจของอีกศาลหน่ง ก็โต้แย้งว่าคดีอยู่ในอำานาจศาลปกครอง มาฟ้อง
ี
ึ
ิ
จะเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซ่งปัญหาเหล่าน้สร้างความ ศาลปกครองก็โต้แย้งว่าคดีอย่ในอำานาจศาลยุตธรรม
ู
ื
ึ
ปวดหัวให้ชาวบ้าน สมัยก่อนเราเรียนกฎหมายพ้นฐานกันมา จึงให้แนวคิดในท่ประชุมว่า อย่าได้สงสัย ไม่ว่าคดีข้นสู่
ี
กิจกรรมของสำ�นักง�นเลข�นุก�ร
่
คณะกรรมก�รวินิจฉัยชี้ข�ดอำ�น�จหน้�ที่ระหว�งศ�ล 43