Page 50 - รายงานประจำปี 2562
P. 50
ั
ั
ื
ึ
ั
ื
ศาลใด ข้นศาลไหนก็ไปสู้คดีในศาลน้น เช่อม่นว่าท้ง แต่จะมีวิธีทางรัฐศาสตร์มาสอดแทรกด้วยเพ่อให้ชาวบ้าน
ิ
ศาลยุติธรรมและศาลปกครองต่างก็มีความรู้ความสามารถ ได้รับความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นศาลใดกให้ความยุตธรรม
็
ี
ทจะให้ความยุตธรรมแก่คู่ความได้ท้งน้น ชาวบ้านจะได้ กับประชาชนได้เช่นกัน
ั
ิ
ั
่
ี
ี
ี
้
่
ั
ุ
่
่
ั
ู
้
ไมตองเสยเวลา ยกตวอยาง ลาสดคดทเอกชนเปนผรบจาง นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ ตุลาการหัวหน้าคณะ
็
่
้
ั
ฟ้องกรมศิลปากรเร่องผิดสัญญาก่อสร้าง คดีเหล่าน้น ศาลปกครองสูงสุด เร่องน้เป็นเร่องสำาคัญ การมีระบบ
ื
ี
ื
ื
เข้ามาสู่ศาลยุติธรรม โดยข้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ศาลคู่ต้องอย่าให้เป็นภาระของประชาชน ถ้าศาลมีความ
ึ
ื
ั
ื
ได้เน่องจากจำาเลยไม่ได้โต้แย้งเร่องอำานาจศาล ดังน้น เห็นต่างกันมาก ประชาชนซ่งไม่มีความรู้กฎหมายก็จะ
ึ
ี
่
่
พวกเราในฐานะทเป็นข้าราชการเป็นเจ้าหน้าทของรัฐ เกิดความไม่เข้าใจว่าควรปฏิบัติอย่างไร ดังนั้น เรื่องไหน
ี
ึ
ี
ไม่ควรท่จะหยิบยกประเด็นเร่องอำานาจศาลข้นมาเอง กรณ ี ท่ค่อนข้างน่งและประชาชนเข้าใจดีแล้ว ก็ควรจะเดิน
ื
ิ
ี
ที่นำาคดีไปฟ้องศาลปกครองหรือฟ้องส่วนราชการต่าง ๆ ตามแนวเดิม ไม่ควรทำาให้ประชาชนสับสน และกรณีศาล
ขอความกรุณาว่าอย่าให้ยื่นคำาร้องโต้แย้งเขตอำานาจศาล ที่รับฟ้องไว้แล้ว ต่อมายกเรื่องอำานาจศาลในคดีที่ดำาเนิน
ื
พนักงานอัยการก็อย่าได้สงสัยในเร่องอำานาจศาล และ กระบวนพิจารณามานานแล้วว่าอยู่ในเขตอำานาจของ
ื
หากมีโอกาสได้หารือกับสภาทนายความ เม่อท่านได้รับ อีกศาลหน่ง แล้วต้องไปพิจารณาคดีอีกศาลหน่งซ่งอาจ
ึ
ึ
ึ
แต่งต้งให้เป็นทนายความจะฟ้องหรือแก้ต่างก็แล้วแต่ ไปเร่มต้นใหม่ ก็เป็นปัญหาความยุ่งยากของประชาชน
ั
ิ
ิ
ั
ถ้าคดีเร่มท่ศาลใดก็ขอให้สู้ในศาลน้นตลอดไป แนวคิด และก่อให้เกิดความล่าช้า แต่มุมมองเร่องรายละเอียด
ี
ื
ี
ี
ตรงน้จะแก้ปัญหาในเชิงบริหารท่ไม่ทำาให้เสียเวลา ในอดีต สามารถพิจารณาแตกต่างกันได้ในข้อเท็จจริงแต่ละกรณี
ี
ท่ผ่านมาศาลยุติธรรมได้รับฟ้องคดีและสืบพยานจนนัด ประเด็นท่ได้ข้อยุติและประชาชนเข้าใจมาแล้วก็ควรจะ
ี
ึ
ฟังคำาพิพากษาแล้ว ผู้พิพากษาเจ้าของสำานวนสงสัยข้นมา ถอเปนแนวทเดินตามตอไป และเหนดวยกบทานประธาน
้
ั
็
ื
่
่
ี
่
็
ว่าคดีน้ไม่อยู่ในอำานาจของศาลยุติธรรม น่าจะอยู่ใน ศาลฎีกาว่า ไม่ว่าคดีจะข้นสู่ศาลใด แม้วิธีพิจารณาจะ
ี
ึ
อานาจของศาลปกครองแล้วส่งขนมาให้คณะกรรมการ
ำ
้
ึ
ุ
่
้
ื
ั
้
็
้
ั
ิ
ุ
่
ี
พิจารณา ขอความกรุณาอย่าทำาเช่นน้ ถ้าสงสัยให้สงสัย ตางกน แตสดทายกตองอำานวยความยตธรรมใหเหมอนกน
ั
ั
ต้งแต่วันที่รับฟ้องคดีคู่ความจะได้ไม่เสียเวลามาก ใน ถ้าดูผลคดีก็ไม่ได้ต่างกันมาก ดังน้นในการประชุมสัมมนา
ื
กรณีศาลจังหวัดกับศาลแขวงนั้น ศาลยุติธรรมต้องไปแก้ หากเป็นเร่องปลีกย่อยเล็กน้อยก็อย่าให้เป็นภาระกับ
ื
ื
พระธรรมนูญศาลยุติธรรมว่า ถ้าฟ้องคดีต่อศาลจังหวัด ประชาชน ยกตัวอย่างบางเร่องเช่น เร่องสัญญาจ้าง
ื
ั
แม้คดีน้นจะอยู่ในอำานาจศาลแขวงก็ให้ศาลจังหวัด ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เวลามีข้อพิพาทไม่ได้พิพาทเร่อง
ั
ื
พิจารณาคดีน้นได้ เพราะศาลเหมือนกัน ประชาชนมาย่น สัญญาเพียงอย่างเดียว จะมีเรื่องย่อย ๆ ที่พิพาทกันอีก
ื
คำาฟ้องก็ให้รับพิจารณา ไม่ว่าผู้พิพากษาศาลจังหวัดหรือ แต่ถ้าเราเอาเร่องปลีกย่อยมาเป็นประเด็นหลักอีกแล้ว
ั
ู
ผ้พพากษาศาลแขวงต่างกเป็นผ้พพากษาเช่นกน ปัญหา ก็มาแยกส่วนอีก ก็จะทำาให้เกิดความล่าช้า แนวทางท ี ่
ิ
ู
็
ิ
ี
ึ
ี
ื
ในเร่องน้ก็คล่คลายลงซ่งการแก้ไขปัญหาเชิงวิชาการ คณะกรรมการให้ความสำาคัญกับการท่ไม่ให้เกิดความ
ี
โดยแท้ นักวิชาการก็เห็นไม่ตรงกัน เช่อว่าในศาลปกครอง สับสนกับประชาชนไม่ให้เป็นภาระและไม่ให้เกิดความ
ื
เองไม่ว่าจะเป็นการประชุมในศาลปกครองสูงสุดหรือ ล่าช้า เป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว
ศาลปกครองช้นต้นก็แล้วแต่ก็ไม่มีมติเอกฉันท์เหมือนกัน ประธาน ขอขอบคุณข้าราชการในสำานักงาน
ั
ี
ทุกเร่อง ท้งในเร่องว่าสัญญาพิพาทเป็นสัญญาทางปกครอง เลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอำานาจหน้าท ี ่
ื
ื
ั
หรือไม่ ศาลปกครองก็มีมติไม่เอกฉันท์ ฉะน้นในฐานะ ระหว่างศาล ปัจจุบันศาลยุติธรรมมีการประชาสัมพันธ์
ั
ื
ผู้ทำางานถ้ามีความเห็นไม่เหมือนกันไม่ควรทำาให้ ทางส่อออนไลน์ และสำานักงานฯ ได้นำาคำาวินิจฉัยของ
ประชาชนเดือดร้อน ถือเป็นหลักคิด ส่วนวิชาการก็ต้องสอน คณะกรรมการฯ ไปเผยแพร่ให้ผู้พิพากษาท่วประเทศ
ั
ั
ื
ต้องอบรม ต้องสัมมนา ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ได้รับทราบ เน่องจากศาลยุติธรรมจะมีศาลช้นต้น
กิจกรรมของสำ�นักง�นเลข�นุก�ร
44 คณะกรรมก�รวินิจฉัยชี้ข�ดอำ�น�จหน้�ที่ระหว�งศ�ล
่