Page 183 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 183

๑๗๐


                               (๑) เป็นการถูกต้องที่จะต้องได้รับโทษ

                               (๒) ผู้ถูกลงโทษได้กระท าผิด
                               (๓) โทษที่ลงแก่ผู้กระท าความผิดเป็นการกระท าเช่นเดียวกันกับที่ผู้กระท าความผิดได้

                 กระท ากับผู้เสียหาย

                               (๔) โทษต้องก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานแก่ผู้กระท าควาผิดพอ ๆ กับที่ผู้กระท าความผิด
                 ได้ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานต่อผู้เสียหาย

                                             ั
                               (๕) มีความสัมพนธ์ระหว่างการประพฤติผิดของผู้กระท าความผิดกับความทุกข์ทรมาน
                 ของโทษที่ก าหนด

                               ๓) ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utilitarianism)

                               ทฤษฎีอรรถประโยชน์ คือ ทฤษฎีที่เห็นว่าการลงโทษเป็นก่อให้เกิดผลในทางลบต่อสังคม
                 มากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ แต่ก็มีความจ าเป็นที่จะต้องป้องกันสังคม จึงจ าเป็นที่จะต้องลงโทษเพอประโยชน์
                                                                                               ื่
                 ส่วนรวมเป็นส าคัญ ไม่ใช่เพอแก้แค้นผู้กระท าความผิดเท่านั้น การลงโทษจึงมุ่งเน้นวิธีการป้องกันไม่ให้เกิด
                                        ื่
                 การกระท าความผิดขึ้นในอนาคต โดยมองว่า ลักษณะของมนุษย์คือการแสวงหาความพอใจและหลีกเลี่ยง

                 ความเจ็บปวด สังคมจึงควรมีการด าเนินการตามหลักประโยชน์สูงสุดของมนุษย์ทุกคน โดยลงโทษให้

                 สอดคล้องกับความร้ายแรงของการกระท าความผิดตามความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสังคม จึงอาจแบ่ง
                                                              13
                 วัตถุประสงค์ของการลงโทษตามทฤษฎีนี้ได้ ๓ ประการ  คือ
                               (๑) เพื่อข่มขู่หรือยับยั้ง (Deterrence)

                                  ทฤษฎีนี้เห็นว่าการลงโทษอาญามีขึ้นเพอป้องกันหรือห้ามปราบมิให้มีการกระท าความผิด
                                                                ื่
                 เกิดขึ้น โดยหวังว่าโทษจะมีผลต่อบุคคลทั่วไปไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง และมีผลต่อผู้กระท าความผิดให้หวาดกลัว

                                     ี
                 ไม่กล้ากระท าความผิดอกและกลับตนเป็นคนดี ซึ่งจะต้องค านึงถึงปัจจัยหลายประการประกอบกัน เช่น
                 ความแตกต่างในลักษณะของความผิด โอกาสที่จะก่อให้เกิดการกระท าความผิด การบังคับใช้กฎหมายอย่าง
                         14
                 เสมอภาค  เป็นต้น การลงโทษย่อมท าให้สังคมได้ประโยชน์ในด้านลดการก่ออาชญากรรมและส่งเสริมให้
                 บุคคลทั่วไปเคารพต่อกฎหมาย
                               (๒) เพื่อแก้ไขและฟื้นฟูจิตใจผู้กระท าความผิด (Reformation ant Rehabilitation)

                               ทฤษฎีนี้เน้นการปฏิบัติต่อตัวผู้กระท าความผิดโดยตรง การลงโทษทางอาญาแก่บุคคล

                 นอกจากโทษประหารชีวิตแล้ว เป็นไปได้ว่าวันหนึ่งผู้รับโทษจะต้องผ่านและพนโทษนั้น ไม่ว่าจะเป็นโทษ
                                                                                  ้

                 https://repository.nida.ac.th/bitstream/handle /662723737/4980/b207944.
                 pdf?sequence=1&isAllowed=y
                        13  ปราโมทย์ เสริมศีลธรรม. หลักเกณฑ์ในการก าหนดโทษทางอาญา ภายใต้โครงการสนับสนุนสารสนเทศเพื่อ

                 การท างานของสมาชิกรัฐสภา. สถาบันพระปกเกล้า สืบค้นเมื่อ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ จาก
                 https://www.kpi.ac.th/knowledge/book/data/1145
                        14  ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ, กฎหมายอาญาภาคทั่วไป พิมพ์ครั้งที่ ๒๑, (กรุงเทพมหานคร : ส านักพิมพ์วิญญูชน,

                 ๒๕๖๓), หน้า ๒๑๗.
   178   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188