Page 186 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 186
๑๗๓
21
ิ
เช่นนี้จ าเลยจะขอให้กักขังต่อไป ไม่ยอมให้ยึดทรัพย์ไม่ได้ เพราะโดยหลักแล้ว การที่ศาลพพากษาวาง
โทษปรับเป็นเงินจ านวนหนึ่งนั้น ย่อมเป็นความประสงค์ของกฎหมายที่จะบังคับให้เป็นไปตาม
ึ
ี
22
ค าพิพากษา การกักขังแทนเงินค่าปรับจะพงกระท าต่อเมื่อไม่มทางจะได้เงินค่าปรับเท่านั้น หรือในกรณีที่
จ าเลยถูกขังแทนค่าปรับอยู่นั้นแต่ยังไม่ครบก าหนด ถ้าฝ่ายโจทก์น ายึดทรัพย์ของจ าเลยได้และขอให้ปล่อย
ตัวไป ศาลอาจมีหมายปล่อยจ าเลย เพราะโจทก์มีค าขอให้ปล่อยเพอจะยึดทรัพย์บังคับค่าปรับได้ แม้จะมี
ื่
หมายแดงแจ้งโทษเด็ดขาดไปแล้วก็ตาม
23
๑.๕.๒ การกักขังแทนค่าปรับ ถืออตรา ๕๐๐ บาท ต่อ ๑ วัน และไม่ว่าในกรณีความผิด
ั
กระทงเดียวหรือหลายกระทง ห้ามกักขังเกินก าหนด ๑ ปี เว้นแต่ในกรณีที่ศาลพพากษาให้ปรับตั้งแต่
ิ
๒๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไป ศาลจะสั่งให้กักขังแทนค่าปรับเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๑ ปี แต่ไม่เกิน ๒ ปี ก็ได้
ในการค านวนระยะเวลานั้น ให้นับวันเริ่มกักขังแทนค่าปรับรวมเข้าด้วยและให้นับเป็น ๑ วันเต็มโดยไม่ต้อง
ค านึงถึงจ านวนชั่วโมง ในกรณีที่จ าเลยถูกคุมขังก่อนศาลพพากษา ให้หักจ านวนวันที่ถูกคุมขังนั้นออกจาก
ิ
จ านวนเงินค่าปรับ โดยถืออตรา ๕๐๐ บาท ต่อ ๑ วัน เว้นแต่ผู้นั้นต้องค าพพากษาให้ลงโทษทั้งจ าคุกและ
ั
ิ
ปรับ ถ้าจะต้องหักจ านวนวันที่ถูกคุมขังออกจากเวลาจ าคุกก็ให้หักออกเสียก่อน เหลือเท่าใดจึงให้หักออก
จากเงินค่าปรับ เมื่อจ าเลยถูกกักขังแทนค่าปรับครบก าหนดแล้ว ให้ปล่อยตัวในวันถัดจากวันที่ครบก าหนด
ถ้าน าเงินค่าปรับมาช าระครบแล้ว ให้ปล่อยตัวไปทันที
24
ในกรณีที่จ าเลยช าระเงินค่าปรับตามค าพพากษาไปบางส่วนแล้วถูกกักขังแทนค่าปรับใน
ิ
ส่วนที่ยังช าระไม่ครบ เช่นนี้ จ าเลยจะขอรับเงินค่าปรับที่ช าระไปแล้วคืน โดยยอมให้ศาลกักขังเต็มตาม
25
ิ
จ านวนค่าปรับทั้งหมดย่อมท าไม่ได้ เพราะที่จ าเลยช าระค่าปรับไปนั้นเป็นการปฏิบัติตามค าพพากษาแล้ว
ส าหรับจ าเลยที่เป็นนิติบุคคลนั้น บังคับช าระค่าปรับโดยวิธียึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิ
เรียกร้องในทรัพย์สินเท่านั้น จะน าเรื่องการกักขังแทนค่าปรับมาใช้ไม่ได้
26
การกักขังแทนค่าปรับนั้นปรากฏชัดขึ้นจากกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. ๑๒๗ ซึ่งเป็น
ประมวลกฎหมายสมัยใหม่ (Modern Law) ฉบับแรกของไทย โดยบัญญัติไว้ในมาตรา ๑๘ มีสาระส าคัญว่า
ผู้ต้องค าพิพากษาให้ปรับ และไม่ได้ช าระภายใน ๑๕ วัน ให้ยึดทรัพย์มาใช้ค่าปรับ หรือให้จ าคุกแทนค่าปรับ
โดยก าหนดให้จ าคุก ๑ วัน แทนจ านวนค่าปรับ ๑ บาท ต่อมาเมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายอาญา
ิ่
ั
พ.ศ. ๒๔๙๙ ก าหนดการกักขัง ๑ วัน แทนค่าปรับ ๕ บาท และมีการเพมอตราการกักขังแทนค่าปรับ
เรื่อยมาจากอดีตจนถึงปัจจุบันโดยก าหนดการกักขัง ๑ วัน แทนค่าปรับ ๒๐ บาท ตามพระราชบัญญัติแก้ไข
21 ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๔๔/๒๔๕๙, ๒๖๗/๒๔๗๔.
22 ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๒๙/๒๔๗๖.
23 ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๘๗/๒๔๗๙.
24 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐.
25 ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๗๕/๒๕๐๓.
26 ค าพิพากษาฎีกาที่ ๖๗๕๔/๒๕๔๔.