Page 240 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 240

๒๒๗



                                                                  ์
                               ทั้งสองกรณีดังกล่าวศาลฎีกาได้หลักเกณฑไว้ดังนี้

                        ขอให้ศาลห้ามชั่วคราวตามาตรา ๒๕๔(๒) ได้แม้ไม่เกี่ยวกับทรัพย์

                               ฎีกาที่ ๑๕๐๙/๒๕๑๔ โจทก์ฟองว่าโจทก์และจ าเลยจดทะเบียนหย่ากัน โดยมีข้อสัญญา
                                                         ้
                                                                          ้
                 ให้บุตรอยู่ในความอปการะของโจทก์ แต่จ าเลยหลอกลวงบุตรไป จึงฟองให้ส่งบุตร ดังนี้ โจทก์มีอานาจยื่น
                                 ุ

                 ค าร้องให้ศาลสั่งให้จ าเลยส่งบุตรให้โจทก์ก่อนพิพากษาได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๕๔ (๒) เพราะมาตรา ๒๕๔
                 มิใช่เป็นบทบัญญัติให้ใช้เฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์เท่านั้น


                        ค าสั่งศาลตามมาตรา ๒๕๔(๒) ต้องเป็นการห้ามจ าเลย จะขอให้ห้ามบุคคลอื่นกระท าไม่ได้


                                                             ้
                               ค าสั่งค าร้องที่ ๗๕/๒๕๔๖ โจทก์ฟองขอให้เพกถอนค าสั่งไม่รับจดทะเบียนของจ าเลย
                                                                      ิ
                 และให้จ าเลยรับจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานแห่งประเทศ
                                                                 ิ
                 ไทย ซึ่งได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ศาลฎีกาพพากษาตามค าขอของโจทก์ ต่อมาโจทก์อทธรณ์
                                                                                                   ุ
                 โต้แย้งค าสั่งศาลแรงงานกลางเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนของจ าเลยว่าจะเริ่มนับตั้งแต่เมื่อใด ขณะคดีอยู่
                 ระหว่างการพจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นค าร้องขอให้ห้าม ป. กับพวก ซึ่งแอบอางเป็นประธาน
                             ิ
                                                                                          ้
                 คณะกรรมการสภาแรงงานแห่งประเทศไทย กระท าซ้ าหรือกระท าต่อไปซึ่งกิจการของสภาแรงงานแห่ง
                 ประเทศไทย และห้ามมิให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนไว้ชั่วคราว กรณีจึงเป็นเรื่องนอกเหนือค าฟ้องกับเป็น

                 เรื่องที่ขอให้ห้ามบุคคลอื่น ซึ่งมิใช่จ าเลยไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา ๒๕๔ (๒) ต้องยกค าร้อง


                               ค าสั่งศาลที่ห้ามมิให้ท านิติกรรมใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินก่อนพพากษาตามมาตรา ๒๕๔(๒)
                                                                                 ิ
                                       ิ
                 นั้น ไม่ห้ามเจ้าหนี้ตามค าพพากษาอนยึดหรืออายัดตาม ป.วิ.พ. หรือตามกฎหมายอน (ฎีกาที่ ๒๕๗,๒๕๘/
                                                                                     ื่
                                              ื่
                 ๒๕๑๓ ค าสั่งค าร้องที่ ๓๔๔๒/๒๕๔๖) เป็นหลักการเดียวกับการยึดทรัพย์ของจ าเลยไว้ก่อนพิพากษา
                                                         ิ
                               การขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพพากษาแม้จะเข้าหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ศาลก็อาจใช้
                 ดุลพนิจไม่อนุญาตให้ ถ้าโจทก์ยื่นค าขอล่วงเลยเวลาอนสมควรและหากศาลมีค าสั่งตามค าขอนั้นจะ
                     ิ
                                                                ั
                 ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จ าเลย เช่น โจทก์เพิ่งยื่นค าร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพพากษาต่อศาลหลังจาก
                                                                                     ิ
                                                         ิ
                 ที่จ าเลยทั้งสามเข้าด าเนินการก่อสร้างในที่ดินพพาทแล้วเป็นเวลานานถึง ๕ เดือนเศษ การยื่นค าขอของ
                 โจทก์จึงล่วงเลยเวลาอันสมควร ทั้งหากน าวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้ย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหาย
                 แก่จ าเลยทั้งสามเช่นเดียวกัน พฤติการณ์เช่นนี้จึงยังไม่สมควรที่จะน าวิธีการชั่วคราวก่อนพพาทตาม ป.วิ.พ.
                                                                                          ิ
                 มาตรา ๒๕๔(๒) มาใช้ (ฎีกาที่ ๒๔/๒๕๔๐)


                        ตัวอย่างค าสั่งห้ามชั่วคราวมิให้จ าเลยกระท าซ้ าหรือกระท าต่อไปซึ่งการละเมิด

                                                           ้
                               ๑. ฎีกาที่ ๖๔๒๔/๒๕๕๐ โจทก์ฟองขอให้บังคับจ าเลยขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้าง
                 ออกจากที่ดินพพาทและคืนที่ดินแก่โจทก์ในสภาพไม่มีสิ่งปลูกสร้างและวัสดุอปกรณ์ก่อสร้าง ห้ามจ าเลย
                              ิ
                                                                                 ุ
                                          ิ
                                                                                             ิ
                 และบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินพพาท การที่จ าเลยเข้าไปด าเนินการก่อสร้างอาคารในที่ดินพพาทหลังจาก
   235   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245