Page 241 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 241

๒๒๘



                                                                                      ้
                 โจทก์ยื่นค าฟองแล้ว ย่อมเป็นการกระท าซ้ าหรือกระท าต่อไปซึ่งการละเมิดที่ถูกฟองร้อง อาจก่อให้เกิด
                            ้
                                                                                          ี
                 ความเสียหายแก่โจทก์ได้หากศาลพพากษาให้โจทก์ชนะคดี กรณีจึงมีเหตุสมควรและเพยงพอที่จะน าวิธี
                                               ิ
                 คุ้มครองชั่วคราวก่อนพพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๕๔(๒) มาใช้โดยห้ามชั่วคราวมิให้จ าเลยและบริวาร
                                    ิ
                 ด าเนินการก่อสร้างอาคารในที่ดินพพาทจนกว่าคดีจะถึงที่สุดได้ หากจ าเลยได้รับความเสียหาย จ าเลยก็มี
                                              ิ
                 สิทธิที่จะว่ากล่าวเอาแก่โจทก์ได้ตามมาตรา ๒๖๓ เมื่อโจทก์เป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินย่อมได้รับ

                                                                                           ่
                 ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์
                 มาตรา ๑๓๗๓ ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตตามค าขอของโจทก์โดยไม่สั่งให้โจทก์น าเงินหรือหาประกันมาวางตาม
                 มาตรา ๒๕๗ วรรคท้าย จึงชอบแล้ว


                               ตามฎีกาข้างต้นมีข้อสังเกตว่านอกจากห้ามจ าเลยแล้วยังห้ามบริวารจ าเลยด้วย แต่การที่
                 ไม่ให้โจทก์วางเงินประกันนั้นน่าจะเป็นเหตุผลเฉพาะคดี ในคดีทั่วไปควรให้โจทก์วางเงินหรือหาประกัน

                 ค่าเสียหายซึ่งจะเป็นผลดีแก่ทั้งสองฝ่าย เพราะโจทก์จะได้รับระมัดระวังในการขอ ส่วนจ าเลยก็มี

                 หลักประกันว่าหากได้รับความเสียหายสามารถบังคับเอากับหลักประกันได้ทันที ส่วนกรณีตามฎีกาจะ
                 บังคับเอาค่าเสียหายในคดีนี้หรือต้องไปฟองเป็นคดีใหม่หรือไม่ยังเป็นข้อสงสัย นอกจากนี้ขอให้ดูการน าข้อ
                                                   ้
                 สันนิษฐานของกฎหมายตามมาตรา ๑๓๗๓ มาปรับใช้แก่คดีด้วย บทบัญญัติดังกล่าวยังน าไปใช้ในลักษณะ
                                                                                                   ่
                 อื่นๆ ได้อีกเช่น ภาระพิสูจน์ในกรณีทรัพย์สินที่ คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส ตาม ประมวลกฎหมายแพงและ
                 พาณิชย์มาตรา ๑๔๗๔ วรรคท้าย ซึ่งบัญญัติว่า ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือ

                 มิใช่ ในสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส ดังนี้ ถ้าคู่สมรสมีชื่อถือกรรมกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินฝ่ายเดียวจะ
                 ใช้ข้อสันนิษฐานใด เห็นว่า ต้องดูรูปคดีเป็นหลัก ถ้าพพาทเกี่ยวกับสินสมรสก็ต้องน าข้อสันนิษฐานตาม
                                                              ิ
                 มาตรา ๑๔๗๔ วรรคท้าย มาใช้ จะน าข้อสันนิษฐานตามาตรา ๑๓๗๓ มาใช้ไม่ได้

                                                                                    ิ
                               ๒. ฎีกาที่ ๗๒๒๑/๒๕๔๔ โจทก์ฟ้องขอให้จ าเลยรื้อถอนก าแพงพพาทซึ่งจ าเลยได้ก่อสร้าง
                                   ั
                 ปิดทางภาระจ ายอมอนเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ในการใช้ทางภาระจ ายอมเข้าสู่ที่ดินของโจทก์ การ
                 ที่โจทก์ยื่นค าร้องขอคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ชั่วคราวก่อนพพากษาโดยให้จ าเลยรื้อถอนก าแพงพพาท
                                                                                                    ิ
                                                                     ิ
                 ออกไปก่อน เพอให้โจทก์ใช้ทางภาระจ ายอมได้นั้น จึงเป็นการขอให้ศาลมีค าสั่งในอนที่จะบรรเทาความ
                              ื่
                                                                                       ั
                 เดือดร้อนที่โจทก์ได้รับเนื่องจากการกระท าของจ าเลยที่ถูกฟ้องร้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
                                                                               ิ
                 แพ่งมาตรา ๒๕๔(๒) มีเหตุที่โจทก์จะขอให้ศาลมีค าสั่งใช้วิธีการชั่วคราวก่อพพาทได้ เมื่อปรากฏว่าจ าเลยซึ่ง
                 เป็นเจ้าของที่ดินภารยทรัพย์ได้ก่อสร้างก าแพงปิดทางภาระจ ายอม ท าให้โจทก์ไม่สามารถเข้าออกที่ดินของ

                 โจทก์ซึ่งเป็นสามยทรัพย์ได้โดยสะดวก กรณีมีเหตุสมควรและเพยงพอที่จะน าวิธีคุ้มครองที่โจทก์ขอมาใช้
                                                                      ี
                 บังคับตามมาตรา ๒๕๕ เฉพาะบริเวณติดกับที่ดินของโจทก์ได้ (กรณีตามฎีกานี้ยังไม่ถือว่าค าสั่งศาลนั้นท า

                 ให้โจทก์ชนะคดีเพราะเป็นค าสั่งให้รื้อก าแพงเพียงบางส่วน)
   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246