Page 245 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 245
๒๓๒
(ข) โจทก์จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายต่อไปเนื่องจากการกระท าของจ าเลย
(ค) ทรัพย์สินที่พิพาทหรือทรัพย์สินของจ าเลยนั้นมีพฤติการณ์ว่าจะมีการกระท าให้เปลือง
ไปเปล่าหรือบุบสลายหรือโอนไปยังผู้อื่น หรือ
(ง) มีเหตุตาม(๑) (ก) หรือ (ข)
(๓) ในกรณีที่ยื่นค าขอให้ศาลมีค าสั่งตามมาตรา ๒๕๔(๓) ต้องให้เป็นที่พอใจของศาลว่า
(ก) เป็นที่เกรงว่าจ าเลยจะด าเนินการให้มีการจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน
ิ
หรือเพิกถอนการจดทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์สินที่พพาทหรือทรัพย์สินของจ าเลยหรือที่เกี่ยวกับการกระท าที่
ถูกฟ้องร้อง ซึ่งการด าเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หรือ
(ข) มีเหตุตาม (๑) (ข)
ื่
(๔) ในกรณีที่ยื่นค าขอให้ศาลมีค าสั่งตามมาตรา ๒๕๔(๔) ต้องให้เป็นที่พอใจของศาลว่า เพอที่จะ
ประสิงหรือขัดขวางต่อการพิจารณาคดีหรือการบังคับใดๆ ซึ่งอาจจะออกบังคับเอาแก่จ าเลย หรือเพื่อจะท า
ให้โจทก์เสียเปรียบ
(ก) จ าเลยซ่อนตัวเพื่อจะไม่รับหมายเรียกหรือค าสั่งของศาล
้
(ข) จ าเลยได้ยักย้ายไปให้พนอานาจศาลหรือซุกซ่อนเอกสารใดๆ ซึ่งพอจะเห็นได้ว่าจะใช้
ิ
เป็นพยานหลักฐานยังจ าเลยในคดีที่อยู่ในระหว่างพจารณา หรือทรัพย์สินที่พพาทหรือทรัพย์สินของจ าเลย
ิ
ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเป็นที่เกรงว่าจ าเลยจะจ าหน่ายหรือท าลายเอกสารหรือทรัพย์สินเช่นว่านั้น
หรือ
(ค) ปรากฏตามกิริยาหรือตามวิธีที่จ าเลยประกอบการงานหรือการค้าของตนว่า จ าเลยจะ
หลีกหนีหรือพอเห็นได้ว่าจะหลักหนีไปให้พ้นอ านาจศาล
ตามบทบัญญัติข้างต้นหลักส าคัญ คือ ต้องเป็นที่พอใจของศาลว่า ค าฟองมีมูลและมีเหตุ
้
เพยงพอที่จะน าวิธีคุ้มครองตามที่ขอนั้นมาใช้ได้ ถ้าข้อเท็จจริงไม่เข้าหลักเกณฑ์นี้แล้วก็ไม่จ าต้องพจารณา
ี
ิ
ื่
หลักเกณฑ์อนๆ ตามมาตรา ๒๕๕(๑) ถึง(๓) ศาลมีอานาจสั่งยกค าร้องเสียได้โดยไม่ต้องไต่สวน(ฎีกาที่
๒๑๔๙/๒๕๑๖ ฎีกาที่ ๔๖๑/๒๕๐๗ และฎีกา ๙๗๐/๒๕๑๙ วินิจฉัยท านองเดียวกัน)
ิ
้
๑. ฎีกาที่ ๖/๒๕๓๔ เมื่อตามค าฟอง ค าให้การ ค าร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพพากษา
และค าคัดค้านข้อเท็จจริงรับกันได้ความว่า ตามค าฟองและโอกาสที่โจทก์ยื่นค าร้องนั้นมีเหตุสมควรและ
้
เพยงพอที่จะน าวิธีคุ้มครองชั่วคราวก่อนพพากษามาใช้ซึ่งได้ความครบถ้วนตาม ประมวลกฎหมายวิธี
ิ
ี
พจารณาความแพงมาตรา ๒๕๔(๑) และ (๒) แล้ว ศาลอทธรณ์ชอบที่จะมีค าสั่งอนุญาตตามค าร้องขอของ
ุ
่
ิ
โจทก์ได้โดยไม่จ าเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐานของคู่ความก่อนแต่อย่างใด