Page 244 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 244
๒๓๑
วรรคท้าย (ศาลฎีกาให้ศาลชั้นต้นพจารณาสั่ง แต่ค าร้องนี้จะต้องด้วยมาตรา ๒๕๔ หรือไม่ เป็นเรื่อง
ิ
ที่ศาลชั้นต้นต้องวินิจฉัย)
ุ
๒. ฎีกาที่ ๒๓๘๗/๒๕๒๕ โจทก์ยื่นค าร้องขอคุ้มครองสิทธิของโจทก์มาพร้อมอทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีอ านาจสั่งค าร้องของโจทก์ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๕๔ วรรคท้าย การที่ ศาลชั้นต้นส่งค าร้องไป
ุ
ุ
ิ
ให้ศาลอทธรณ์พจารณาสั่งและศาลอทธรณ์มีค าสั่งยกค าร้องของโจทก์จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาพพากษา
ิ
ยกค าสั่งศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งค าร้องดังกล่าวของโจทก ์
ในกรณีที่โจทก์ยื่นค าร้องตามมาตรา ๒๕๔ หลังจากศาลชั้นต้นรับฟองอทธรณ์หรือฎีกา
ุ
้
ุ
และส่งส านวนไปให้ศาลอทธรณ์หรือศาลฎีกาพจารณาแล้ว กรณีนี้ศาลชั้นต้นไม่มีอานาจสั่งอนุญาตตาม
ิ
ค าร้องหรือยกค าร้องเพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา ๒๕๔ วรรคท้าย ศาลชั้นต้นคงเพียงแต่สั่งรับค าร้อง
นัดไต่สวน และสั่งให้โจทก์น าส่งส าเนาค าร้องแก่จ าเลยเพอคัดค้าน เมื่อไต่สวนพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย
ื่
ุ
เสร็จแล้ว ศาลชั้นต้นต้องรวบรวมค าร้อง ค าคัดค้านและพยานหลักฐานส่งศาลอทธรณ์หรือศาลฎีกาเพอ
ื่
พิจารณาสั่งต่อไป
ิ
ข้อสังเกตุ กรณีค าร้องขอคุ้มครองประโยชน์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพ่ง
้
ุ
มาตรา ๒๖๔ แม้ยังไม่ได้ส่งค าฟองอทธรณ์หรือฎีกาไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา ศาลชั้นต้นก็ไม่มีอานาจ
สั่งค าร้องนั้นได้เพราะไม่มีบทบัญญัติ เช่นมาตรา ๒๕๔ วรรคท้าย ศาลอทธรณ์หรือศาลฎีกาเท่านั้นที่มี
ุ
อ านาจสั่งค าร้องดังกล่าว (ค าพิพากษาฎีกาที่ ๓๘๐๑/๒๕๕๑)
ศาลจะมีค าสั่งค าขอคุ้มครองชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพง
่
ิ
ิ
มาตรา ๒๕๔ ได้ต้องเป็นไปตามมาตรา ๒๕๕ ซึ่งบัญญัติว่า ในการพจารณาอนุญาตตามค าขอที่ยื่นไว้ตาม
๓
ี
้
มาตรา ๒๕๔ ต้องให้เป็นที่พอใจของศาลว่าค าฟองมีมูลและมีเหตุเพยงพอที่จะน าวิธีคุ้มครองตามที่ขอนั้น
มาใช้ได้ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่ยื่นค าขอให้ศาลมีค าสั่งตามมาตรา ๒๕๔(๑) ต้องให้เป็นที่พอใจของศาลว่า
ิ
(ก) จ าเลยตั้งใจจะยักย้ายทรัพย์สินที่พพาทหรือทรัพย์สินของตนทั้งหมด หรือแต่บางส่วน
ไปให้พนจากอานาจศาล หรือจะโอนขายหรือจ าหน่ายทรัพย์สินดังกล่าวเพอประโยชน์หรือขัดขวางต่อการ
้
ื่
บังคับตามค าบังคับใดๆ ซึ่งอาจจะออกบังคับเอาแก่จ าเลยหรือเพื่อจะท าให้โจทก์เสียเปรียบ หรือ
(ข) มีเหตุจ าเป็นอื่นใดตามที่ศาลจะพิเคราะห์เห็นเป็นการยุติธรรมและสมควร
(๒) ในกรณีที่ยื่นค าขอให้ศาลมีค าสั่งตามมาตรา ๒๕๔(๒) ต้องให้เป็นที่พอใจของศาลว่า
(ก) จ าเลยตั้งใจจะกระท าซ้ าหรือกระท าต่อไปซึ่งการละเมิด การผิดสัญญา หรือการ
กระท าที่ถูกฟ้องร้อง
๓ มาตรา ๒๕๕, ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง