Page 251 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 251
๒๓๘
๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โจทก์ร้องทุกข์ด าเนินคดีอาญากับจ าเลยในข้อยักยอกไว้ด้วย โจทก์ยื่นค าร้อง
้
ขอคุ้มครองชั่วคราวอางว่า จ าเลยเบิกถอนเงินปิดบัญชีธนาคารไปแล้วหนึ่งบัญชี คาดว่าจะยักย้ายทรัพย์อน
ื่
อก จึงขอคุ้มครองชั่วคราวอายัดทรัพย์ทุกรายการไว้ก่อน ปรึกษาคดีกัน คนหนึ่งเห็นว่า ทรัพย์มีชื่อจ าเลย
ี
ต้องรอพิสูจน์กรรมสิทธิ์เสียก่อน จะมีค าสั่งอะไรต้องระวัง ยังไม่ควรอายัด อีกคนเห็นว่าโจทก์เป็นผู้ชายอายุ
๖๐ ปี มีฐานะในสังคมและเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ติดอันดับ ๑ ใน ๑๐ ของประเทศ จ าเลยเป็น
ผู้หญิงสาวสวยอายุ ๒๕ ปี เป็นเลขาส่วนตัวของโจทก์ ไม่ปรากฏว่ามีฐานะมาก่อน โจทก์กล้าแจ้งความ
ด าเนินคดีอาญา ผู้หญิงไม่ได้ท าธุรกิจใดที่ต้องมีการโอนทรัพย์จ านวนมาก มีค าสั่งอายัดไว้ก่อน ไม่น่า
เสียหาย ให้โจทก์วางเงินประกันส่วนหนึ่ง
้
คดีที่สามโจทก์ฟองขอให้เปิดทางภาระจ ายอมเป็นถนนคอนกรีตกว้าง ๓ เมตร ยาว
๕๐ เมตร มาถึงบ้านโจทก์ เจ้าของภารยทรัพย์คนเดิมจดทะเบียนภาระจ ายอมให้โจทก์ไว้แล้วเมื่อ ๓๐ ปี
ก่อน โจทก์ใช้ทางมาตลอด ๓๐ ปี จ าเลยเจ้าของคนปัจจุบัน( ถือกรรมสิทธิ์ภารยทรัพย์มา ๑๐ ปีแล้ว)
ิ
วันหนึ่งมาสร้างรั้วอฐบล็อกปิดกั้นด้านหน้าทั้งหมด ๓ เมตร โจทก์มีคนแก่อยู่ในบ้าน เอารถเข้าออกไปไม่ได้
ิ
ขอคุ้มครองชั่วคราวโดยเหตุฉุกเฉินให้ทุบรั้วอฐบล็อกออกก่อน ปรึกษาคดีกัน คนหนึ่งเห็นว่าให้ทุบได้เลย
ี
โดยให้โจทก์วางเงินประกันความเสียหาย อกคนเห็นว่า ควรสอบถามคู่ความได้ความว่าขนาดรถยนต์ขนาด
กว้าง ๑.๙๐ เมตร ดังนั้นให้ทุบ ๒.๒๐ เมตร เหลือไว้ ๘๐ เซนติเมตร เพราะถ้าให้ทุบหมดทั้ง ๓ เมตร ตามที่
โจทก์ขอ เกรงว่าจะมีผลเหมือนให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีทันที ผู้เขียนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการขอคุ้มครอง
่
ั
ชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพงมาตรา ๒๕๔(๒) การสั่งให้ทุบรั้วคือค าสั่งอื่นใดในอนที่
ิ
จะบรรเทาความเดือดร้อน เสียหายที่โจทก์อาจได้รับต่อเนื่องจากการกระท าของจ าเลย ซึ่งมีแนว
ค าพิพากษาฎีกาท านองให้รื้อก าแพงเพียงบางส่วนเท่าที่จ าเป็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเห็นว่าตามหน้า
ี
งานจริง การให้ทุบรั้วโดยให้เหลือไว้เพยง ๘๐ เซนติเมตร (มีลักษณะคล้ายแง่งปูน) อาจจะท ายากในทาง
ปฏิบัติและเกิดข้อโต้แย้งในชั้นนี้กันได้ นอกจากนี้ยังได้ความว่าซอยที่จะเลี้ยวเข้าถนนพพาทนี้ ก็เป็นทาง
ิ
ิ
แคบ ซึ่งต้องอาศัยการตีวงรถขณะเลี้ยวด้วยเช่นนี้ จึงน่าจะทุบรั้วทั้งหมด ๓ เมตรได้ ดังนั้น การพจารณา
สั่งค าร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในเรื่องใดๆ แม้จะมีแนวค าพพากษาฎีกาก็ตาม ผู้พิพากษาก็ควรต้องพิจารณา
ิ
ตามสภาพข้อเท็จจริงโดยแท้แต่ละเรื่องไป
ส าหรับตัวอย่างคดีที่สอง คดีที่สาม และคดีอื่นๆ ผู้เขียนสังเกตเห็นได้ว่า ผู้พิพากษาหลาย
้
ท่านยังมองว่าถ้าโจทก์ฟองบังคับเรียกหนี้เงินแล้ว จะไม่มีการอายัดชั่วคราวทรัพย์สินอื่นของจ าเลยได้เพราะ
ิ
ไม่อยู่ในค าขอท้ายฟอง หลายท่านมองว่าต้องเป็นการอายัดทรัพย์พพาทในคดีเท่านั้น จะไปสั่งอายัด
้
ื่
ทรัพย์สินอนของจ าเลยไม่ได้ จนกลายเป็นธงชี้น าในการสั่งค าร้องไปแล้วเช่นนี้ ทั้งที่ประมวลกฎหมายวิธี
พจารณาความแพงมาตรา ๒๕๔ ไม่ได้บัญญัติไว้เช่นนั้นเลย นอกจากนี้ทนายความส่วนใหญ่มีประสบการณ์
ิ
่
ว่า การที่ศาลจะมีค าสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพพากษานั้นเป็นเรื่องยาก ทนายความมักจะต้องอธิบาย
ิ
ให้ตัวความทราบไว้ก่อน ผู้เขียนจึงพอประเมินได้ว่าการสั่งค าร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีค าพพากษานั้น
ิ
ิ
มีผู้พพากษาอยู่ ๒ แนวคิด แนวคิดแรกคือ ค่อนข้างเคร่งครัด ให้ยาก มีมุมมองว่าถ้าให้แล้ว ถือว่าคู่ความ