Page 29 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 29

๑๖


                                    ื่
                  บัญญัติถ้อยค้าว่า “อน” ต่อท้ายค้าว่า “พยานหลักฐาน” ในมาตรา๒๒๖/๕ดังกล่าว  กรณีจึงมีข้อควร
                  พิจารณาในการตีความบทบัญญัติของกฎหมายนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนโดยที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาหรือ
                  เสนอขอแก้กฎหมายมาตรา ๒๒๖/๕ ต่อไป

                         ๒.ปัญหาการตีความหรือแปลความตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพจารณา
                                                                                                    ิ
                  คดีเยาวชนและครอบครัวมาตรา ๖๙ ตามค้าพิพากษาฎีกาที่ ๓๗๕๓/๒๕๖๐ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า ค้าให้การของ

                  เด็กหรือเยาวชนในชั้นจับกุม รับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดของบุคคลอื่นในคดีอื่นได้
                         ค้าพพากษาที่ ๓๗๕๓/๒๕๖๐ การกล่าวหาและจับกุมจ้าเลยด้าเนินคดีนี้ แม้มีมูลเหตุสืบ
                             ิ
                  เนื่องมาจากค้าซัดทอดของ ศ. ที่ถูกจับกุมในคดีอน แต่ ศ. ให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนในคดีที่ ศ. เป็น
                                                          ื่
                  ผู้ต้องหาในวันเดียวกับวันที่ ถูกจับกุม จึงเป็นการยากที่จะคิดปรุงแต่งเรื่องราวให้ผิดไปจากความจริงและใน

                                                                               ้
                                                                    ื่
                  คดีดังกล่าว ศ. ให้การรับสารภาพ จึงมิใช่เป็นการซัดทอดเพอให้ตนเองพนผิดโดยปัดความผิดไปให้จ้าเลย
                    ี
                  เพยงผู้เดียว หากเป็นการบอกเล่าเรื่องราวในการกระท้าความผิดของตนยิ่งกว่าการปรักปร้าจ้าเลยเสียอก
                                                                                                        ี
                  ทั้ง ป.วิ.อ. มาตรา ๗/๑ ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๓ ก็ไม่ได้ก้าหนดไว้ว่า
                  การสอบค้าให้การในชั้นจับกุมของผู้ต้องหาซึ่งเป็นเด็กดังเช่น ศ. จะต้องกระท้าต่อหน้านักจิตวิทยาหรือนัก

                  สังคมสงเคราะห์หรือที่ปรึกษากฎหมายหรือบุคคลที่เด็กไว้วางใจ และไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดที่ห้ามมิ
                  ให้น้าค้าให้การชั้นจับกุมของผู้ต้องหาในลักษณะดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานในการพสูจน์ความผิดของ
                                                                                           ิ
                  บุคคลอื่นหรือจ้าเลยในคดีอื่นแต่ประการใดทั้งสิ้น

                          เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
                                                                              ิ
                  พ.ศ. ๒๕๓๓ มาตรา ๖๙ บัญญัติว่า ในการจับกุมเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระท้าความผิด ให้เจ้า
                  พนักงานผู้จับแจ้งแก่เด็กหรือเยาวชนนั้นว่าเขาต้องถูกจับและแจ้งข้อกล่าวหารวมทั้งสิทธิตามกฎหมายให้
                  ทราบหากมีหมายจับให้แสดงต่อผู้ถูกจับ แล้วน้าตัวผู้ถูกจับไปยังที่ท้าการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ท ี่

                  ถูกจับทันที เพอให้พนักงานสอบสวนของท้องที่ดังกล่าวส่งตัวผู้ถูกจับไปยังที่ท้าการของพนักงานสอบสวน
                              ื่
                  ผู้รับผิดชอบโดยเร็ว

                         ถ้าขณะจับกุม มีบิดา มารดา ผู้ปกครอง บุคคลหรือผู้แทนองค์การซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ด้วย
                  อยู่ด้วยในขณะนั้น ให้เจ้าพนักงานผู้จับแจ้งเหตุแห่งการจับให้บุคคลดังกล่าวทราบ และในกรณีความผิด

                  อาญาซึ่งมีอตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายก้าหนดไว้ให้จ้าคุกไม่เกินห้าปี เจ้าพนักงานผู้จับจะสั่งให้บุคคล
                            ั
                  ดังกล่าวเป็นผู้น้าตัวเด็กหรือเยาวชนนั้นไปยังที่ท้าการของพนักงานสอบสวนตามวรรคหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าใน

                  ขณะนั้นไม่มีบุคคลดังกล่าวอยู่กับผู้ถูกจับ ให้เจ้าพนักงานผู้จับแจ้งให้บุคคลดังกล่าวคนใดคนหนึ่งทราบถึง
                  การจับกุมในโอกาสแรกเท่าที่สามารถกระท้าได้ และหากผู้ถูกจับประสงค์จะติดต่อสื่อสารหรือปรึกษาหารือ

                  กับบุคคลเหล่านั้น ซึ่งไม่เป็นอปสรรคต่อการจับกุมและอยู่ในวิสัยที่จะด้าเนินการได้ ให้เจ้าพนักงานผู้จับ
                                           ุ
                  ด้าเนินการให้ตามควรแก่กรณีโดยไม่ชักช้า

                         ในการจับกุมและควบคุมเด็กหรือเยาวชนต้องกระท้าโดยละมุนละม่อม โดยค้านึงถึงศักดิ์ศรีความ
                  เป็นมนุษย์และไม่เป็นการประจานเด็กหรือเยาวชน และห้ามมิให้ใช้วิธีการควบคุมเกินกว่าที่จ้าเป็นเพอ
                                                                                                        ื่
                                        ื่
                                                                                       ื่
                  ป้องกันการหลบหนีหรือเพอความปลอดภัยของเด็กหรือเยาวชนผู้ถูกจับหรือบุคคลอน รวมทั้งมิให้ใช้เครื่อง
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34