Page 490 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 490

๔๗๘


                 ๒๕๒๒ มาตรา ๙๑ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จ าคุก ๘

                              ึ่
                 เดือน เพมโทษกงหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๗ เป็นจ าคุก ๑๒ เดือน
                        ิ่
                                                        ิ
                                                   ่
                 จ าเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แกการพจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมาย
                 อาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๖ เดือน
                            จ าเลยอุทธรณ์
                                 ุ
                            ศาลอทธรณ์พพากษาแก้เป็นว่า เพมโทษจ าเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
                                                        ิ่
                                       ิ
                 ๙๒ เป็นจ าคุก ๑๐ เดือน ๒๐ วัน ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๕ เดือน ๑๐
                 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามค าพิพากษาศาลชั้นต้น
                            โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

                            ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า จะเพมโทษจ าเลยตาม
                                                                                        ิ่
                                                                                           ุ
                                                                                                  ิ
                 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๗ ได้หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลอทธรณ์พพากษา
                 ลงโทษจ าเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๗, ๙๑ พระราชบัญญัติจราจรทาง
                 บก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๑๕๗/๑ วรรคสอง แต่เห็นว่าการกระท าของจ าเลยเป็นกรรม
                 เดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทจึงก าหนดโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒

                 มาตรา ๑๕๗/๑ วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ดังนี้ การกระท าของจ าเลยยังคงเป็น

                 ความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๑ เพยงแต่ศาลอทธรณ์ไม่ได้น าโทษ
                                                                                        ุ
                                                                               ี
                 ตามบทบัญญัติดังกล่าวมาก าหนดโทษจ าเลยเท่านั้น เมื่อค าขอให้เพมโทษจ าเลยตามพระราชบัญญัติ
                                                                            ิ่
                 ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๗ เป็นค าขอในวิธีการอปกรณ์ของโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติด
                                                                    ุ
                                                                      ิ่
                                                           ้
                 ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๑ และคดีที่โจทก์อางเป็นเหตุเพมโทษจ าเลยเป็นการกระท าความผิดต่อ

                 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ศาลจึงมีอานาจที่จะเพมโทษจ าเลยกึ่งหนึ่งตามบทบัญญัติ
                                                                           ิ่
                 ดังกล่าว ที่ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษจ าเลยหนึ่งในสามนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
                            พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามค าพิพากษาศาลชั้นต้น



                            ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๓๘๕/๒๕๖๐
                                  ้
                            โจทก์ฟองขอให้ลงโทษจ าเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘,
                 ๕๗, ๙๑ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ทวิ, ๑๕๗/๑ พระราชบัญญัติการขนส่ง

                 ทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๒ (๑), ๑๐๒ (๓ ทวิ), ๑๒๗ ทวิ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของจ าเลย
                            จ าเลยให้การรับสารภาพ

                            ศาลชั้นต้นพพากษาว่า จ าเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
                                       ิ
                 มาตรา ๕๗, ๙๑ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๑๕๗/๑ วรรคสอง

                 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๒ (๓ ทวิ), ๑๒๗ ทวิ วรรคสอง ฐานเป็นผู้ขับรถเสพ
                 เมทแอมเฟตามีน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด

                 ลงโทษแก่จ าเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ แต่บทก าหนดโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่ง
   485   486   487   488   489   490   491   492   493   494   495