Page 517 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 517

๕๐๕




                              (๖) ภัยอันตรายหรือความเสียหายที่จะเกดจากการปล่อยชั่วคราวมีเพียงใดหรือไม่
                                                               ิ
                              (๗) ในกรณีที่ผู้ต้องหาหรือจ าเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีค าคัดค้านของพนักงานสอบสวน

                 พนักงานอัยการ โจทก์ หรือผู้เสียหาย แล้วแต่กรณี ศาลพึงรับประกอบการวินิจฉัยได้

                        เพอประโยชน์ในการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานซึ่งมีอานาจสั่งให้ปล่อยชั่วคราวหรือศาล
                          ื่


                        ั
                 อาจรับฟงข้อเท็จจริง รายงานหรือความเห็นของเจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายก าหนดให้มีอานาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับ
                 การนั้นเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งค าร้องด้วยก็ได้

                        ในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เจ้าพนักงานซึ่งมีอานาจสั่งให้ปล่อยชั่วคราว หรือศาลจะก าหนด
                 เงื่อนไขเกี่ยวกับที่อยู่ของผู้ที่ถูกปล่อยชั่วคราว หรือก าหนดเงื่อนไขอื่นใดให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติเพื่อป้องกน
                                                                                                          ั
                                       ั
                                 ื่
                                                                                                        ื่
                                                                                                   ๓๑
                 การหลบหนีหรือเพอป้องกนภัยอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยชั่วคราวก็ได้”  เพอให้
                      ิ
                 การพจารณาค าร้องขอปล่อยชั่วคราวของศาลสอดคล้องกับบทบัญญัติดังกล่าวและเป็นไปในทิศทางเดียวกันจึง
                 มีการออกข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือ
                 หลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยก าหนดรายละเอียดเกี่ยวกับ

                 หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาค าร้องขอปล่อยชั่วคราว การก าหนดวงเงินประกันในความผิดต่างๆ ซึ่งพจารณา
                                                                                                      ิ
                 จากอตราโทษตามกฎหมายและค าพพากษาของศาล หลักการเรียกประกันหรือหลักประกันในกรณีที่ผู้ขอ
                      ั
                                                ิ
                 ประกันมีความเกี่ยวพนกับจ าเลย ประเภทหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน หลักเกณฑ์และวงเงินกรณีที่ใช้
                                   ั
                 บุคคลเป็นประกัน นอกจากนี้ ยังมีการออกระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการปล่อย
                                                                                                   ้
                 ชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๔๘ ก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการยื่นและสั่งค าร้องขอปล่อยชั่วคราว มีขอสังเกตว่า
                      ิ
                 การพจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในขณะนั้นมุ่งเน้นเรื่องความหนักเบา
                 แห่งข้อหากับจ านวนและหลักประกันเป็นส าคัญ ท าให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในการได้รับอนุญาตให้ปล่อย

                 ชั่วคราว กล่าวคือ ผู้ต้องหาหรือจ าเลยที่มีฐานะยากจนจ านวนมากไม่อาจเข้าถึงสิทธิในการปล่อยชั่วคราวได้

                 เนื่องจากไม่สามารถหาหลักประกันยื่นต่อศาลได้ ท าให้ผู้ต้องหาหรือจ าเลยเหล่านี้ต้องถูกคุมขังทั้งที่ยังไม่มี
                 ค าพพากษาว่าตนเองได้กระท าความผิด ขาดโอกาสในการแสวงหาพยานหลักฐาน ครอบครัวได้รับความ
                     ิ
                 เดือดร้อน น ามาสู่ปัญหาความแออัดในเรือนจ า และปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา

                                    ้
                        เพื่อเป็นการแกไขปัญหาความเหลื่อมล้ าในการเข้าถึงสิทธิในการได้รับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจึงมี
                 แนวความคิดในการน าเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยซึ่งสามารถตรวจสอบที่อยู่
                                                                                                          ั
                 ก ากับดูแลและติดตามผู้ถูกปล่อยชั่วคราวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันกให้ความส าคัญกับวงเงินประกน
                                                                                  ็


                        ๓๑   ปัจจุบัน ความในวรรคสามถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
                 (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๕๘ และให้ใช้ข้อความอื่นแทน ซึ่งผู้เขียนจะได้กล่าวต่อไป
   512   513   514   515   516   517   518   519   520   521   522