Page 522 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 522

๕๑๐




                                     ั
                 จ าเลยหลบหนี ยุ่งเหยิงกบพยานหลักฐาน และก่ออันตรายประการอื่นได้ยิ่งกว่าการก าหนดจ านวนหลักประกัน
                 มูลค่าสูง อันเป็นการคุ้มครองความสงบสุขของสังคมได้ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาในการ

                 ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในชั้นพิจารณาเกิดขึ้นหลายประการ


                 ๔. ปัญหาเกี่ยวกับการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในชั้นพิจารณา

                        ๔.๑ ปัญหาความไม่ต่อเนื่องของนโยบายในการปล่อยชั่วคราว


                              ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ เป็นต้นมาจะเห็นว่าศาลยุติธรรมตระหนักและให้ความส าคัญกับการคุ้มครองสิทธิ
                 เสรีภาพของผู้ต้องหาและจ าเลยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิของผู้ต้องหาหรือจ าเลยในการได้รับการ

                 ปล่อยชั่วคราว มีการคิดหาวิธีการต่างๆ ตลอดจนน าเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารความเสี่ยงจากการหลบหนี

                 ขณะเดียวกันก็ให้ความส าคัญกับจ านวนหลักประกันที่จะใช้ในการปล่อยชั่วคราวน้อยลง โดยมีวัตถุประสงค์
                 เพื่อให้ผู้ต้องหาหรือจ าเลยที่มีฐานะยากจนมีโอกาสเข้าถึงสิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราวมากขึ้น


                            ในระยะแรก ช่วงปี ๒๕๖๐ ศาลยุติธรรมศึกษาวิจัยการใช้แบบประเมินความเสี่ยงเพอปล่อยชั่วคราว
                                                                                              ื่
                 ผู้ต้องหาหรือจ าเลยโดยไม่ใช้หลักประกัน โดยใช้วิธีสอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้ต้องหาหรือจ าเลยแล้วน ามา

                 ประเมินว่าผู้ต้องหาหรือจ าเลยคนนั้นๆ มีแนวโน้มที่จะหลบหนีมากน้อยเพยงใด มีการเริ่มทดลองใช้กับศาล ๕ แห่ง
                                                                            ี
                 คือ ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลจังหวัดจันทบุรี ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ และ

                                                                                   ั
                 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้นได้ขยายไปยังศาลทั่วประเทศโดยใช้กับคดีที่อตราโทษจ าคุกอย่างสูงไม่เกิน
                 ห้าปี ต่อมาจึงมีการน ามาใช้กับคดีที่มีอตราโทษจ าคุกอย่างสูงไม่เกินสิบปี และสุดท้ายน ามาใช้กับทุกอัตราโทษ ซึ่ง
                                                ั
                 หลังจากที่มีแนวคิดในการน าแบบประเมินความเสี่ยงมาใช้พบว่าศาลยุติธรรมมีนโยบายให้แต่ละศาลน าวิธีการ

                 ประเมินความเสี่ยงมาใช้ให้ได้มากที่สุด แต่หลังจากนั้นไม่นานเมื่อนโยบายของผู้บริหารเปลี่ยน การประเมิน

                 ความเสี่ยงจึงลดบทบาทลงจนแทบไม่มีการน ามาใช้หรือน ามาใช้น้อยมาก

                                                                             ุ
                            ต่อมามีแนวความคิดในการน าเทคโนโลยีอนได้แก่ อปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ (Electronic
                                                                    ั
                                                                                    ิ
                 Monitoring) หรือ EM ซึ่งใช้ในการตรวจสอบการเดินทางหรือตรวจสอบต าแหน่งที่อยู่จากระยะไกลมาใช้เพอ
                                                                                                          ื่
                                                                                                     ุ
                   ิ่
                 เพมประสิทธิภาพในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลย โดยศาลยุติธรรมท าสัญญาเช่าอปกรณ์
                  ิ
                 อเล็กทรอนิกส์จากบริษัทเอกชน และเริ่มน ามาใช้เป็นครั้งแรกเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ ใช้งบประมาณกว่า
                 ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ส าหรับการเช่าอปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ชุดแรกจ านวน ๕,๐๐๐ เครื่อง ใช้กับศาลน าร่อง
                                                        ิ
                                                 ุ
                                                ิ
                 ๑๕ แห่ง ต่อมามีการเช่าอุปกรณ์เพ่มเติมและขยายให้มีการน าไปใช้ในศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ขณะนั้น
                 ศาลยุติธรรมมีนโยบายสนับสนุนให้แต่ละศาลน าอปกรณ์อเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการปล่อยชั่วคราวให้มากที่สุด
                                                                 ิ
                                                          ุ
                                          ุ
                 เช่นเดิม มีการเก็บสถิติการใช้อปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ของแต่ละศาล หลังจากนั้นจึงเริ่มเกิดปัญหาความไม่เพยงพอ
                                                ิ
                                                                                                       ี
                      ุ
                                                                  ิ
                                                           ุ
                                                                                              ื่
                 ของอปกรณ์ที่ได้รับการจัดสรรเนื่องจากมีการน าอปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ไปใช้จ านวนมากเพอสนองนโยบาย
   517   518   519   520   521   522   523   524   525   526   527