Page 50 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 50

เรียกค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของ  คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล

            เจ้าหน้าที่จำเลยก็ตาม แต่ค่าเสียหายดังกล่าว ก็เป็น  ที่ ๙/๒๕๔๘
            มูลความที่เกี่ยวเนื่องกัน ทั้งคำขอของโจทก์บางข้อ        คดีที่เอกชนผู้ฟ้องคดียื่นฟ้องกระทรวง

            ก็เป็นการขอคืนเงินภาษีอากรเพิ่มและเงินเพิ่มที่โจทก์  การคลังที่ ๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ ๒

            ชำระแก่จำเลยไปแล้ว ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็น  กรมสรรพสามิต ที่ ๓ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ ๔
            คดีภาษีอากร ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติ  เจ้าพนักงานสรรพสามิตพื้นที่ปทุมธานี ๑ ที่ ๕

            จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร  ผู้ถูกฟ้องคดี ขอให้เพิกถอนประกาศกรมสรรพสามิต

            พ.ศ. ๒๕๒๘ อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม             เรื่องกำหนดมูลค่าของสุราที่ทำในราชอาณาจักร
                                                            เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี ทำให้ผู้ฟ้องคดี

            คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล          ได้รับความเสียหาย ต้องชำระภาษีเพิ่มเติมและเสียภาษี
            ที่ ๓๕/๒๕๔๘                                     สูงขึ้น ให้ผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกันคืนเงินภาษีส่วนที่เสียเพิ่ม

                   คดีที่กระทรวงการคลังยื่นฟ้องเอกชน  และชดใช้ค่าเสียหาย แม้ประกาศหรือคำสั่งพิพาท

            ว่าเป็นผู้ชนะการประมูลเงินอากรเก็บรังนกอีแอ่น   จะเป็นการออกโดยใช้อำนาจตามกฎหมายของ

            แล้วไม่ยอมเข้าทำสัญญา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นจำเลย  เจ้าพนักงานก็ตาม แต่ก็ออกมาเพื่อกำหนดฐานภาษี
            ขอและได้รับอนุญาตให้เข้าเก็บรังนกไปพลางก่อน  เนื่องจากเห็นว่าราคาขาย ณ โรงงานสุราที่ผู้ฟ้องคดี
            โดยมิได้ส่งเงินอากร ขอให้ชำระค่าเสียหาย ซึ่งจำเลย  แจ้งไว้เป็นราคาที่ไม่ถูกต้องและได้ทำการประเมินราคา

            อ้างว่าการที่ไม่ได้เข้าทำสัญญาต่อกันเป็นเพราะ  เพิ่มขึ้น  จึงเป็นการประเมินภาษีรูปแบบหนึ่ง

            ความผิดของฝ่ายโจทก์ ทั้งฟ้องแย้งขอให้คืนหลักประกัน  เมื่อผู้ฟ้องคดีเห็นว่าเป็นประกาศหรือคำสั่งที่มิชอบ


            ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเกิดจากการที่โจทก์เปิดประมูล  ด้วยกฎหมาย ย่อมเป็นการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ




            เงินอากรเก็บรังนกอีแอ่น ตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง  เจ้าพนักงานตามกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร อันเป็น
            แห่งพระราชบัญญัติรังนกอีแอ่น พ.ศ. ๒๕๔๐ เมื่อ  คดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลภาษีอากร

            เงินอากรเก็บรังนกอีแอ่นเป็นเงินค่าธรรมเนียม  และการที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ชดใช้เงินค่าภาษีคืนหรือ
            อย่างหนึ่งที่รัฐเรียกเก็บและกฎหมายกำหนดให้เป็น  งดเว้นภาษีส่วนที่ต้องเสียเพิ่มขึ้นเนื่องจากการ

            เงินภาษีอากร ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติ  ออกประกาศดังกล่าว ก็เป็นประเด็นที่พิพาทเกี่ยวกับ
            จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร  การขอคืนภาษีอากรตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง

                                                                    ี
                                                                            ิ
                                                                               ิ
            พ.ศ. ๒๕๒๘ ข้อพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็น  ศาลภาษอากรและวธีพจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘
            ข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องของรัฐในหนี้ภาษีอากร   มาตรา ๗ (๑) และ (๓) ทั้งประเด็นการขอให้ชดใช้
            และเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ตามข้อผูกพัน  ค่าเสียหายและค่าขาดประโยชน์นั้นก็เป็นมูลความ

            ซึ่งได้ทำขึ้นเพื่อประโยชน์แก่การจัดเก็บภาษีอากร   ที่เกี่ยวเนื่องกัน ย่อมอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษา
            อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลภาษีอากร  ของศาลภาษีอากรกลางเช่นเดียวกัน

            ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธี

            พิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๗ (๒)

            และ (๔)






           48    ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี  ๒ ๕ ๖ ๔
                 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55