Page 16 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 16

12



               จะด าเนินการให้เสร็จเรียบร้อยตามที่ผู้คัดค้านได้แจ้งถึงข้อบกพร่องดังกล่าวเมื่อผู้เรียกร้องเพิกเฉยจนล่วงเลยระยะเวลา
               สิ้นสุดสัญญาจ้างไปเป็นเวลาเกือบ 5 เดือน ผู้คัดค้านจึงใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา จึงรับฟังได้ว่าผู้เรียกร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา
                              ประเด็นข้อพิพำทที่ 2 ส าหรับประเด็นที่ว่าผู้คัดค้านจะต้องช าระค่างานงวดที่ 2 หรือไม่ได้ข้อเท็จจริง
               ตามค าให้การของนาย ข พยาน ที่ได้ให้การว่าผู้คัดค้านได้ช าระค่างานงวดที่ 2 ให้แก่ผู้เรียกร้อง แต่ไม่ครบตามสัญญา
               เพราะได้หักเงินค่าปรับจ านวน 508,750 บาท คงช าระเงินค่างานงวดที่ 2 ให้เป็นเงินจ านวน 876,347 บาท
               ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการจะได้น าไปหักเงินค่าปรับจ านวน 508,750 บาท ตามประเด็นข้อที่ 1 ส่วนค่างานงวดที่ 5
               คณะอนุญาโตตุลาการได้พิจารณาว่างานงวดที่ 5 มีข้อบกพร่องอยู่บางส่วน ซึ่งผู้คัดค้านได้แจ้งให้ผู้เรียกร้องท าการแก้ไข

               แต่ผู้เรียกร้องเพิกเฉย ซึ่งต่อมาหลังจากเลิกสัญญาแล้ว ผู้คัดค้านได้จ้างห้างหุ้นส่วนจ ากัด ศ. ท าการซ่อมแซมพื้นผิวจราจร
               ดังกล่าวเป็นเงินจ านวน 385,000 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเนื้องานของงวดที่ 5 จ านวนเงิน 2,717,766 บาท ย่อมเห็นได้
               ว่าผู้เรียกร้องได้ท างานในงวดงานที่ 5 ไปแล้วเป็นส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 85 อันเป็นเนื้องานที่ผู้คัดค้านได้น าไปใช้
               ประโยชน์แล้วด้วย เมื่อหักเงินค่าว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจ ากัด ศ. ที่เป็นเนื้องานที่ผู้เรียกร้องเพิกเฉยไม่ด าเนินการให้แล้วเสร็จ
               ตามสัญญา คิดค านวณเป็นเงิน 2,332,766 บาท คณะอนุญาโตตุลาการเห็นว่าผู้คัดค้านจะต้องช าระค่างานงวดที่ 5 ให้แก่
               ผู้เรียกร้องเป็นเงินจ านวน 2,332,766 บาท
                              ประเด็นข้อพิพำทที่ 3 คณะอนุญาโตตุลาการเห็นว่า เมื่อได้ชี้ขาดในประเด็นแรกว่าผู้เรียกร้องเป็นฝ่าย
               ผิดสัญญา ผู้เรียกร้องจึงมีความรับผิดที่จะต้องช าระค่าปรับตามสัญญา อย่างไรก็ตาม เมื่อปรากฏชัดแจ้งว่าผู้เรียกร้องเพิกเฉย
               ไม่ปฏิบัติตามสัญญา ผู้คัดค้านก็จะต้องใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาโดยไม่ชักช้า การที่ผู้คัดค้านปล่อยให้ระยะเวลานับแต่วันครบ

               ก าหนดตามสัญญาล่วงเลยมาถึงเกือบ 5 เดือนจึงค่อยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา สิทธิในการเรียกค่าปรับตามสัญญาจึง
               ควรค านึงถึงระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 และที่แก้ไข
               เพิ่มเติม ข้อ 131 ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม คณะอนุญาโตตุลาการจึงเห็นสมควรก าหนดค่าปรับในอัตราร้อยละ 10 ของ
               วงเงินค่าจ้างที่ได้มีการปรับปรุงกันใหม่ตามบันทึกตกลงแก้ไขต่อท้ายสัญญาจ้างคิดค านวณแล้วเป็นค่าปรับที่
               ผู้คัดค้านจะเรียกจากผู้เรียกร้องได้จ านวน 897,644 บาท แต่เมื่อผู้คัดค้านได้หักเงินค่าปรับจากเงินค่างวดงานงวดที่ 2
               ไปแล้ว 508,750 บาท จึงคงเหลือยอดเงินค่าปรับที่ผู้คัดค้านมีสิทธิเรียกจากผู้เรียกร้องจ านวน 388,894 บาท ซึ่งมีผล
               ให้ผู้เรียกร้องได้รับเงินค่างวดงานที่ 2 เต็มจ านวน
                              จึงชี้ขาดให้ผู้คัดค้านช าระเงิน 1,943,872 บาท ให้แก่ผู้เรียกร้องภายใน 60 วัน นับแต่

               วันได้รับค าชี้ขาดคณะอนุญาโตตุลาการ หากพ้นก าหนดระยะเวลาดังกล่าว ผู้คัดค้านยังไม่ช าระหรือช าระไม่ครบถ้วน
               ผู้คัดค้านจะต้องช าระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินที่ยังค้างช าระให้แก่ผู้เรียกร้องเป็นต้นไปจนกว่าจะช าระเสร็จ



               แหล่งที่มำ

                              ข้อพิพำทหมำยเลขด ำที่ 80/2558
                              หลักกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง  :  ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 224
                              คณะอนุญำโตตุลำกำร   :  ศำสตรำจำรย์ ดร.กมลชัย รัตนสกำววงศ์
                                                      นำยชูศักดิ์ ศิรินิล
                                                      นำยนิธินันท์ สุขวงศ์
                              ผู้ย่อ               :  ประกอบบุญ สุวรรณโมลี
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21