Page 13 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 13

9



               5. ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 69/2559

               ประเด็นข้อพิพำท       :  1. สัญญำจ้ำงสมบูรณ์มีผลผูกพันคู่สัญญำหรือไม่
                                        2. สัญญำมีผลผูกพัน คู่สัญญำฝ่ำยใดเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
                                        3. ค่ำเสียหำยมีจ ำนวนเท่ำไรหรือต้องคืนเงินเท่ำใด

                              ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่ำ ผู้เรียกร้องมีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยเป็นกรมสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

               ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ร้าน ถ. ผู้คัดค้านที่ ๑ ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีนาย ถ.
               ผู้คัดค้านที่ ๒ และนาย ธ. ผู้คัดค้านที่ ๓ เป็นเจ้าของร้าน เมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๐ ผู้เรียกร้องได้ท าสัญญาว่าจ้าง
               ผู้คัดค้านที่ ๑ ให้ท าการก่อสร้างรั้วคอนกรีต ๙๐๐ เมตร เป็นจ านวนเงิน ๑,๓๕๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านสามแสนห้าหมื่นบาท)
               ซึ่งในวันท าสัญญาจ้างดังกล่าว ผู้คัดค้านที่ ๒ ได้มอบอ านาจให้ ผู้คัดค้านที่ ๓ เป็นผู้มาลงนามในสัญญาจ้างในฐานะผู้รับจ้าง
               และได้น าเงินสด จ านวน ๖๗,๕๐๐ บาท มาวางไว้ให้แก่ผู้เรียกร้อง เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา ภายหลังจากท า
               สัญญาจ้างดังกล่าวแล้ว ผู้คัดค้านที่ ๑ ก็ไม่ได้เข้าท างานภายในก าหนดเวลาแต่อย่างใด ผู้เรียกร้องมีหนังสือแจ้งให้เข้าท างาน
               รวมหลายครั้ง แต่ผู้คัดค้านที่ ๑ ก็ยังคงเพิกเฉย ผู้เรียกร้องจึงได้มีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาจ้าง ต่อมาผู้เรียกร้องจึงได้
               ว่าจ้าง บริษัท ก. จ ากัด ท าการก่อสร้างรั้วคอนกรีตบล็อกแทนผู้คัดค้านที่ ๑ เป็นเงินค่าจ้างทั้งสิ้น ๑,๔๘๕,๐๐๐ บาท
               จนแล้วเสร็จ และผู้เรียกร้องได้ช าระเงินค่าจ้างดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จึงได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้คัดค้านที่ ๑ ช าระค่าเสียหาย

               ตามสัญญาอันเกิดจากการที่ผู้เรียกร้องต้องว่าจ้างผู้รับจ้างรายใหม่เป็นจ านวนเงินที่สูงขึ้น จ านวน ๑๓๕,๐๐๐ บาท ภายใน
               ก าหนด ๓๐ วัน นับแต่วันที่ปรากฏในหนังสือบอกกล่าว ผู้คัดค้านที่ ๑ ได้รับหนังสือโดยชอบแล้ว แต่เพิกเฉยไม่ช าระ
               จึงขอให้ผู้คัดค้านทั้งสามร่วมกันรับผิดช าระเงิน จ านวน ๑๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่
               วันผิดนัด


               ค ำวินิจฉัยชี้ขำด
                              ประเด็นข้อพิพำทข้อที่ 1 ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า ทั้งผู้เรียกร้องและผู้คัดค้านที่ ๒ และที่ ๓ ทราบดี
               ในขณะเข้าท าสัญญาว่า ร้าน ถ. ตามที่ได้มีการระบุไว้ในสัญญาจ้างก่อสร้างตามข้อพิพาทนี้เป็นเพียงชื่อที่ใช้ในการประกอบ

               กิจการพาณิชย์เท่านั้น ไม่ได้มีสภาพเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งจะต้องร่วมรับผิดตามสัญญา
               จ้างก่อสร้างตามที่ผู้เรียกร้องได้ยื่นค าเสนอข้อพิพาทดังกล่าวนี้ แต่อย่างไรก็ตามสัญญาจ้างตามข้อพิพาทนี้ ย่อมมีผล
               สมบูรณ์และผูกพันคู่สัญญาทั้งฝ่ายผู้เรียกร้อง ฝ่ายผู้คัดค้านที่ ๒ และผู้คัดค้านที่ ๓ ในฐานะเป็นผู้มอบอ านาจและรับมอบ
               อ านาจในการท าสัญญาจ้างตามที่ได้มีการระบุไว้ตามสัญญาจ้างตามข้อพิพาทนี้แล้ว
                              ประเด็นข้อพิพำทข้อที่ 2 จากการน าสืบได้ความว่า ภายหลังจากผู้เรียกร้อง และร้าน ถ.
               โดยผู้คัดค้านที่ ๓ ผู้รับมอบอ านาจผู้คัดค้านที่ ๒ ได้ท าสัญญาจ้างก่อสร้าง มีก าหนดระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา ๑๒๐ วัน
               และมีก าหนดส่งมอบพื้นที่ท าการก่อสร้างในวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๐ ปรากฏว่า ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือ แจ้งขอเลื่อนการส่ง

               มอบพื้นที่ ซึ่งผู้คัดค้านที่ ๓ ก็ได้มีหนังสือรับทราบและได้แจ้งกลับเรื่อง การขอขยายระยะเวลาท าการก่อสร้างจาก ๑๒๐ วัน
               เป็น ๑๕๐ วัน ตามใบเสนอราคา ต่อมาคู่พิพาทได้เข้าร่วมประชุมเพื่อหาขอสรุปเรื่องพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้าง ซึ่งผล
               การประชุมร้าน ถ. รับว่าพร้อมจะเข้าพื้นที่ภายใน ๗ วัน ต่อมาผู้คัดค้านได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้เรียกร้องด าเนินการรื้อแนวรั้ว
               ลวดหนามเดิมออกให้แก่ทางร้าน เนื่องจากค่ารื้อแนวรั้วลวดหนามไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของทางร้าน เห็นว่ากรณี
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18