Page 18 - บทคัดย่อเล่ม 3
P. 18

14



               เอกสารที่ได้รับปรากฏว่ามีการรับรองความมั่นคงแข็งแรงโดยวุฒิวิศวกรสาขาโยธา ซึ่งมีคุณสมบัติตามกฎกระทรวง
               และข้อบังคับสภาวิศวกรครบถ้วน ดังนั้น วสท. จึงไม่สามารถด าเนินการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไปอีกได้ นอกจากโรงจอดรถ
               จะเกิดปัญหาขึ้นจริงในภายหลัง และหากใช้งานต่อไปอาจเป็นอันตราย จึงจะเข้าด าเนินการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไปได้
                              ในปัญหาตามประเด็นข้อพิพาทข้อแรก เมื่อเสาเข็มที่จะตอกในหลุมที่ ๕, ๖, ๗ และ ๘ ไม่ปรากฏใน
               รูปแบบแนบท้ายสัญญาจ้างพิพาทว่าจะต้องตอกผ่านเสาเข็มเก่าของอาคาร การตอกเสาเข็มตามรูปแบบเป็นเหตุให้เสาเข็ม
               ที่ตอกหักท าให้ตอกต่อไปไม่ได้ดังกล่าว จึงเป็นการตอกเสาเข็มที่ไม่อาจท าต่อไปได้เพราะพฤติการณ์ซึ่งผู้รับจ้างไม่ต้อง
               รับผิดชอบ จึงยังไม่อาจถือว่าผู้รับจ้างผิดนัดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๐๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่เมื่อ

               พบปัญหาดังกล่าว ผู้เรียกร้องจะต้องแจ้งให้กรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ควบคุมงานของผู้คัดค้านทราบเพื่อให้ผู้ว่าจ้าง
               แก้ไขปัญหาโดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมหรือตัดทอนซึ่งงานตามสัญญา แม้ผู้เรียกร้องจะได้ปรับเปลี่ยนโดยการท า
               ฐานปูนด้วยการผูกเหล็กให้แข็งแรงขึ้น และเทปูนที่มีส่วนผสมที่มีความพิเศษสามารถรองรับเหมือนเสาเข็มที่จะวางโครง
               หลังคาได้และมีความปลอดภัยเพียงพอตามที่ผู้เรียกร้องกล่าวอ้างก็ตาม ก็เป็นการกระท าที่ขัดต่อสัญญาพิพาท
               เมื่อผู้เรียกร้องยืนยันการปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างตามสัญญาพิพาทและขอส่งมอบงานก่อสร้างโรงรถรวมทั้งขอรับ
               เงินค่าจ้างทั้งหมดตามสัญญาโดยไม่มีสิทธิดังกล่าว การกระท าของผู้เรียกร้องจึงเป็นการไม่ช าระหนี้ให้ถูกต้องสมควร
               อันจะต้องเสียเบี้ยปรับตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๘๑ ซึ่งสัญญาพิพาท ข้อ ๑๕. ก าหนดค่า
               ปรับวันละ ๑,๙๙๘.๗๖ บาท ผู้เรียกร้องจึงต้องเสียค่าปรับให้แก่ผู้คัดค้านตามอัตราดังกล่าว นับแต่วันผิดนัดจนกว่าจะมี
               การเลิกสัญญา

                              แต่การที่ผู้คัดค้านเพิ่งบอกเลิกสัญญาพิพาทในวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นวันยื่นค าคัดค้านและ
               เรียกร้องแย้งนี้ โดยปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยถึง ๑,๓๕๒ วัน นับแต่วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ อันเป็นวันครบก าหนด
               ระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาพิพาทเป็นต้นมา รวมค่าปรับเป็นเงินถึง ๒,๗๐๒,๓๒๓.๕๒ บาท ซึ่งเกินร้อยละ ๑๐ ของ
               ค่าจ้างที่ก าหนดไว้ในสัญญาพิพาทที่มีวงเงินค่าจ้าง ๑,๙๙๘,๗๖๐ บาท ทั้ง ๆ ที่ผู้เรียกร้องมีหนังสือยืนยันการส่งมอบงานที่
               รับจ้างและขอรับเงินค่าจ้างทั้งหมดต่อผู้คัดค้านหลายครั้งด้วยกัน ดังปรากฏตามเอกสารลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
               หมาย ร.๔๒ และเอกสารรับวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ หมาย ร.๔๓ อันเป็นการยืนยันถึงการไม่ปฏิบัติตามสัญญาพิพาท
               ต่อไป ผู้เรียกร้องหาได้ยินยอมเสียค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไขดังที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างไม่ การปล่อยให้ค่าปรับเกินกว่าร้อยละ ๑๐
               ของวงเงินค่าจ้าง จึงเป็นการขัดต่อข้อบังคับ ของผู้คัดค้าน ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๕๔ ข้อ ๗๙ ข้อบังคับนี้เป็นกฎหมายที่ให้

               อ านาจส่วนราชการด าเนินกิจการทางปกครองที่เกี่ยวกับเรื่องว่าด้วยการพัสดุ จึงเป็นกฎหมายมหาชน อันมีลักษณะเป็น
               กฎหมายบังคับ มิอาจหลีกเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามหรือตกลงเป็นอย่างอื่นผิดไปจากที่ก าหนดมาได้ จึงให้ลดค่าปรับลงเหลือ
               ร้อยละ ๑๐ ของวงเงินค่าจ้างดังกล่าว ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิเรียกค่าปรับจากผู้เรียกร้องเป็นเงิน ๑๙๙,๘๗๖ บาท ผู้คัดค้านได้
               ริบเงินสดจ านวน ๙๙,๙๓๘ บาท ที่ผู้เรียกร้องมอบให้เป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาไปแล้ว จึงเหลือค่าปรับที่ผู้เรียกร้อง
               ต้องช าระแก่ผู้คัดค้านเป็นเงิน ๙๙,๙๓๘ บาท
                              การบอกเลิกสัญญาพิพาทของผู้คัดค้าน ท าให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจ าต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะ
               ดังที่เป็นอยู่เดิมงานก่อสร้างโรงจอดรถที่ผู้เรียกร้องได้ท าไปแล้วตามสัญญา ถือว่าเป็นส่วนที่เป็นการงานอันผู้เรียกร้องได้
               กระท าให้แล้วผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างที่จะชดใช้คืนด้วยการชดใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวล
               กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ ตามจ านวนเสาเข็ม ๑๔ ต้น ที่ผู้เรียกร้องมิได้ตอกตามสัญญาคิดเป็นเงิน

               ๑๖๘,๕๒๕ บาท ผู้เรียกร้องคิดค่าแห่งการงานที่ท าไปแล้วหลังการปรับลดเนื้องานท าโรงจอดรถให้เท่ากับราคากลางของ
               ผู้คัดค้านเป็นเงิน ๑,๘๓๐,๒๓๕ บาท อันเป็นจ านวนเงินที่ผู้คัดค้านต้องใช้คืนแก่ผู้เรียกร้องหักค่าปรับที่ผู้เรียกร้องต้องช าระ
               แก่ผู้คัดค้านจ านวน ๙๙,๙๓๘ บาท จึงเหลือเงินค่าแห่งการงานที่ผู้คัดค้านต้องใช้แก่ผู้เรียกร้องจ านวน ๑,๗๓๐,๒๙๗ บาท
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23