Page 100 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 100
�
ื
ี
ี
ี
ตามท่มีกฎหมายกาหนดหน้าท่ไว้ แต่ก็เป็นเพียงการเช่าพ้นท่จากจาเลย
�
ี
ี
�
ท่ 2 มิได้มอบหมายให้จาเลยท่ 2 บริหารตลาด จึงเป็นสัญญาทางแพ่ง
ธรรมดา นอกจากน้ การท่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาเช่าช่วงเป็น
ี
ี
ี
เพียงข้ออ้างเพ่อนามาสู่การขอเพิกถอนสัญญาท่โจทก์ทากับจาเลยท่ 2
�
ื
�
�
ี
ี
�
ั
�
และท่ 1 และขอให้จาเลยท้งสามชาระเงินคืน สัญญาเช่าช่วงดังกล่าว
ื
�
ก็ควรจะได้รับการพิจารณาในศาลเดียวกัน เพ่อความสะดวกในการอานวย
ความยุติธรรมให้แก่คู่ความ
ี
ี
�
ี
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๗๑/๒๕๕๕
�
การทางพิเศษแห่งประเทศไทยผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่เอกชนผู้เช่าที่ดิน พร้อม
ี
ี
เรียกค่าเช่าท่ค้างชาระ ค่าภาษีโรงเรือนและท่ดิน ค่าเสียหาย และ
�
ี
ดอกเบ้ย ซ่งสัญญาเช่าท่ดินดังกล่าว แม้จะมีคู่สัญญาฝ่ายหน่งเป็น
ึ
ึ
ี
ี
หน่วยงานทางปกครอง แต่ก็กระทาในฐานะท่เท่าเทียมกัน และถึงแม้ว่าจะม ี
�
�
ข้อสัญญาท่กาหนดให้โจทก์เลิกสัญญาได้ก่อนครบกาหนดโดยไม่ต้อง
�
ี
ี
รับผิด ก็พบได้ท่ว ๆ ไปในสัญญาท่เอกชนทาต่อกันและเป็นการกาหนด
�
ั
�
ั
ั
�
ข้อตกลงท่ทาให้ผู้ให้เช่าได้เปรียบเท่าน้น ท้งหากมีการเลิกสัญญาต่อกันแล้ว
ี
�
มิใช่ว่าโจทก์จะใช้อานาจตามสัญญาบังคับเอาจากจาเลยได้ทันที แต่ก็จะ
�
ั
ึ
ี
�
ต้องนาคดีไปสู่ศาล ให้พิจารณาช้ขาดอีกคร้ง ซ่งก็ยังไม่แน่ว่าข้อสัญญา
ดังกล่าวเป็นธรรมหรือไม่ นอกจากน้เน้อหาของสัญญาก็มีสาระสาคัญ
ื
�
ี
เป็นการให้จาเลยได้ประโยชน์จากการใช้ท่ดิน ท่เช่าเป็นทางเข้าออกไปสู่
ี
�
ี
ั
ทางสาธารณะโดยโจทก์ได้ค่าเช่าเป็นผลประโยชน์ตอบแทนเท่าน้น มิได้ม ี
ี
ลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาท่ให้จัดทาบริการสาธารณะ หรือจัด
�
ให้มีส่งสาธารณูปโภค หรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และ
ิ
ี
�
�
มิใช่สัญญาท่โจทก์มอบให้จาเลยเข้าดาเนินการบริการสาธารณะโดยตรง
หรือเข้าร่วมดาเนินการจัดทาบริการสาธารณะกับโจทก์ท่จะถือว่า เป็น
ี
�
�
89