Page 115 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 115
�
ี
ี
ี
�
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๒๒/๒๕๕๘
คดีท่โจทก์ซ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองฟ้องเอกชนให้รับผิดตามสัญญา
ึ
ี
กู้ยืมเงินและสัญญาคาประกันการกู้ยืมเงินตามโครงการเสริมสร้างความ
้
�
เข้มแข็งขององค์กรชุมชนเมืองและชนบท เพ่อนาเงินไปใช้ในการพัฒนา
�
ื
ตามวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว แล้วไม่สามารถชาระหน้น้น
ี
�
ั
�
�
มีสาระสาคัญเป็นการให้จาเลยกู้ยืมเงินโดยกาหนดวิธีการใช้เงินคืน
�
ี
ั
�
ท้งวัตถุประสงค์แห่งสัญญาก็เป็นเงินท่นาไปให้กู้ยืมเฉพาะสมาชิกและ
ี
กรรมการชุมนุมสหพันธ์สหกรณ์ ภาคอีสาน จากัด ท่เป็นสมาชิกเพียง
�
กลุ่มเดียวเท่าน้น สัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวจึงเป็นสัญญาทางแพ่ง มิได้ม ี
ั
ึ
ลักษณะเป็นสัญญาอย่างหน่งอย่างใด ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัต ิ
จัดต้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 และมิใช่
ั
�
ี
�
สัญญาท่โจทก์มอบให้จาเลยเข้าดาเนินการบริการสาธารณะโดยตรง
หรือเข้าร่วมดาเนินการจัดทาบริการสาธารณะกับโจทก์ อันมีลักษณะ
�
�
เป็นสัญญาทางปกครอง
ี
�
ี
�
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๑๔๔/๒๕๖๑
ี
ี
ื
คดีท่กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นโจทก์ย่นฟ้องสหกรณ์สตรีประโคนชัย
ขอให้รับผิดตามสัญญากู้ยืมเงินตามข้อตกลงระหว่างโจทก์และจาเลย โดย
�
ื
จาเลยทาหนังสือ “คายินยอมของสหกรณ์ในการขอรับความช่วยเหลอ
�
�
�
ด้านเงินทุนภายใต้โครงการเงินกู้เพ่อปรับโครงสร้างภาคเกษตร” ให้ไว้
ื
แก่โจทก์ และให้รับผิดตามหนังสือรับสภาพความผิดตามคายินยอมของ
�
ื
สหกรณ์ในการขอรับความช่วยเหลือเงินทุนภายใต้โครงการเงินกู้เพ่อ
ปรับโครงสร้างภาคเกษตรและสิทธิเรียกร้องเดิมน้น แม้โจทก์เป็นส่วน
ั
ราชการมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตาม
ึ
พระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซ่งเป็น
104 สรุปแนว ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
ี
และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
ั
ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
(พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)