Page 113 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 113
ี
คืนให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดี และผู้ฟ้องคดีมีสิทธิท่จะเรียกร้องบาเหน็จค่าฝาก
�
ั
ได้หรือไม่ เพียงใด เท่าน้น ไม่ปรากฏว่าวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการ
ั
ิ
�
ั
ึ
ี
ึ
่
�
ู
ั
จดให้ค่สญญาอกฝ่ายหนงซงเป็นเอกชนเข้าดาเนนการจดทาบรการ
่
ิ
สาธารณะหรือจัดให้มีส่งสาธารณูปโภคเพ่อการบริการสาธารณะ
ื
ิ
ข้อตกลงท่ผู้ฟ้องคดีท้งสองกล่าวอ้างตามฟ้องระหว่างผู้ฟ้องคดีท่ 1 กับ
ี
ั
ี
ผู้ถูกฟ้องคดี จึงเป็นเพียงการก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายเอกชนซ่ง ึ
มลักษณะเป็นข้อตกลงในทางแพ่งทมีหน่วยงานทางปกครองเป็นค่สญญา
่
ี
ั
ี
ู
ั
เท่าน้น มิใช่สัญญาทางปกครอง
จ. สัญญากู้ยืม
ี
่
ิ
ิ
ี
้
คณะกรรมการวนจฉยชขาดอานาจหน้าทระหว่างศาล ได้ใช้
ั
�
�
�
เกณฑ์บริการสาธารณะเป็นหลักสาคัญในการวินิจฉัยเขตอานาจศาลใน
ี
�
คดีพิพาทเก่ยวกับสัญญากู้ยืม หากสาระแห่งสัญญาเป็นเพียงกาหนด
วิธีใช้เงินคืน และวัตถุแห่งสัญญาเป็นการให้กู้ยืมเงินเฉพาะบุคคลบาง
ี
ี
กลุ่ม คณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล วางแนวการ
�
วินิจฉัยว่า สัญญาน้นไม่มีลักษณะเป็นสัญญาทางปกครอง
ั
ี
ี
�
ี
�
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๖/๒๕๕๒
ี
ึ
คดีท่กรมส่งเสริมสหกรณ์ซ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองฟ้องเอกชนให้
ี
ี
ื
รับผิดตามสัญญากู้ยืมเงินเพ่อปรับปรุงโครงสร้างหน้ท่ทาข้นเน่องจากเอกชน
�
ึ
ื
�
ื
กู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์เพ่อใช้ดาเนินการตามโครงการกระจาย
ิ
้
ื
ิ
ี
่
ลนจออกจากแหล่งผลตโดยใช้ระบบเครอข่ายสหกรณ์ของกระทรวง
เกษตรและสหกรณ์แล้วไม่สามารถชาระหน้ได้ เม่อสัญญากู้ยืมเงินเพ่อ
ี
ื
ื
�
ปรับปรุงโครงสร้างหน้ดังกล่าวมีลักษณะเป็นสัญญาทางแพ่ง ข้อพิพาท
ี
ี
�
ในคดีน้จึงอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม สัญญา
102 สรุปแนว ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
ี
ั
และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
(พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)