Page 171 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 171
อาศัยข้อเท็จจริงเดียวกัน แต่ประเด็นแห่งคดีของศาลปกครองสูงสุดน้น
ั
ี
�
ได้แก่ประเด็นท่ต้องวินิจฉัยว่า การกระทาของผู้ร้องเป็นความผิดวินัย
ี
อย่างร้ายแรงหรือไม่ ส่วนประเด็นแห่งคดของศาลฎีกา ได้แก่การกระทา
�
�
ของผู้ร้องกับพวกเป็นการกระทาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
�
มาตรา 148, 157 ประกอบมาตรา 83 หรือไม่ ซ่งการดาเนินการทาง
ึ
ั
วินัยและทางอาญาแก่ข้าราชการน้นเป็นกระบวนการท่แยกต่างหากจาก
ี
ี
�
กน โดยการดาเนินการและการลงโทษทางวนัยของข้าราชการมความ
ั
ิ
�
ุ
ื
ิ
ุ
ั
้
่
่
ู
มงหมายสาคญเพอควบคมความประพฤตของขาราชการให้อยในกรอบของ
่
ื
กฎหมาย ระเบียบ และมาตรฐานทางจริยธรรมเพ่อให้ข้าราชการปฏิบัต ิ
ราชการให้เกิดประสิทธิภาพ รักษาช่อเสียงและสร้างความเช่อม่นของ
ั
ื
ื
ประชาชนต่อระบบราชการอันเป็นการใช้มาตรการภายในฝ่ายบริหาร
ี
ตามกฎหมายและระเบียบท่เก่ยวข้องเพ่อรักษาวินัยข้าราชการ จึงแตกต่าง
ื
ี
จากการดาเนินคดีอาญา ซ่งมีวัตถุประสงค์ในการลงโทษผู้กระทาผิด
�
�
ึ
ื
�
ั
อาญา โดยมีความมุ่งหมายสาคัญเพ่อรักษาความม่นคงของประเทศ
ความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ
�
ึ
ประชาชน ซ่งโดยหลักการดาเนินคดีอาญาต้องเป็นไปตามองค์ประกอบ
�
�
ความรับผิดทางอาญา และศาลจะพิพากษาว่าจาเลยกระทาความผิด
ั
ื
�
อาญาและลงโทษจาเลยก็ต่อเม่อมีพยานหลักฐานม่นคงพิสูจน์ได้ว่า
ั
�
�
มีการกระทาผิดจริงและจาเลยเป็นผู้กระทาความผิดเท่าน้น ดังน ี ้
�
ี
แม้ข้อเท็จจริงท่ใช้เป็นฐานในการพิจารณาความผิดทางวินัยและความผิด
ื
อาญาจะเป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน แต่เม่อประเด็นในคดีต่างกันและ
การพิสูจน์ความผิดท่กฎหมายประสงค์จะนามาลงโทษในคดีอาญาและ
ี
�
คดวนยแตกต่างกน ทงไม่ปรากฏว่ามข้อขดข้อง ในการปฏบตตาม
ี
ิ
ิ
ั
ั
ั
ั
ั
้
ี
ิ
ี
ี
�
�
คาพิพากษาท่ถึงท่สุดของท้งสองศาลแต่อย่างใด กรณีตามคาร้องของ
ั
160 สรุปแนว ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำลในคดีพิพำทเกี่ยวกับสัญญำ
ี
และค�ำวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล กรณีค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งที่ถึงที่สุดระหว่ำงศำลขัดแย้งกัน
ั
ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรวินิจฉัยชี้ขำดอ�ำนำจหน้ำที่ระหว่ำงศำล พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ 1๔
(พ.ศ. ๒๕๔๔ - ๒๕6๒)