Page 34 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 34
�
�
ี
ี
คาช้ขาดของอนุญาโตตุลาการในคดีน้ จึงอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษา
ของศาลยุติธรรม
�
ี
ี
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล ท่ ๘๗/๒๕๖๒
ี
�
ั
ี
พระราชบญญตจดตงศาลปกครองและวธพจารณาคดปกครอง พ.ศ.
ิ
ั
ิ
ั
ิ
้
ั
ี
ี
ั
�
ึ
่
ั
2542 มาตรา 9 วรรคหนง (4) บญญตให้ศาลปกครองมอานาจ
ิ
พิจารณาพิพากษาคดีพิพาทเก่ยวกับสัญญาทางปกครอง และมาตรา 3
ี
ู
บญญัตให้สัญญาทางปกครอง หมายความรวมถง สญญาทค่สัญญา
ั
ึ
ั
ี
่
ิ
อย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหน่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเป็นบุคคล ซ่ง ึ
ึ
ี
กระท�าการแทนรัฐ และมีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาท่ให้จัดท�า
บริการสาธารณะ หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จาก
ี
ทรัพยากรธรรมชาติ... คดีนี้เป็นกรณีพิพาทเก่ยวกับสัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
�
อาคารกองกากับการต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช) ตามสัญญา
ิ
ี
เลขท 17/2558 ซ่งจาเลยเป็นส่วนราชการ มฐานะเป็นนติบุคคล
�
ึ
่
ี
อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัต ิ
�
ตารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 จาเลยจึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตาม
�
มาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดต้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคด ี
ั
ื
ื
ี
ปกครอง พ.ศ. 2542 เม่อสัญญาท่พิพาทมีวัตถุประสงค์เพ่อจัดให้ได้
มาซ่งอาคารท่ทาการของกองกากับการต่อต้านการก่อการร้าย (อรินทราช)
�
�
ึ
ี
ื
โดยอาคารดังกล่าว จาเลยมีวัตถุประสงค์เพ่อใช้เป็นเคร่องมือส�าคัญ
ื
�
ี
�
�
ในการดาเนินการบริการสาธารณะตามอานาจหน้าท่ของจ�าเลยใน
การป้องกันและปราบปรามการกระทาความผิดอาญา และในการรักษา
�
ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และความม่นคงของ
ั
ราชอาณาจักร สัญญาจ้างก่อสร้างดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นสัญญาทาง
ปกครองตามมาตรา 3 และมาตรา 9 วรรคหน่ง (4) แห่งพระราชบัญญัต ิ
ึ
23