Page 211 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 211

´ØÅ¾ÒË





              ความหวังนั้นไว และการใหคาหรือนํ้าหนักสูงเกินจริงกับความเปนไปไดที่ตํ่ามากนี้ (probability
              effect)  อาจใชอธิบายไดวาเพราะเหตุใดคูความในคดีที่แทบไมมีทางสูแลวยังคงสู

              ยิบตา และในอีกแงหนึ่ง การใหนํ้าหนักในการตัดสินใจที่สูงเกินกับความเปนไปไดที่ตํ่าก็ใช
              อธิบายไดวา ทําไมเราถึงซื้อประกันภัย (เพื่อปองกันความสูญเสีย โดยลดความเปนไปไดที่จะ
              เสียหายจากภัยแมจะเพียงไมเกินรอยละ ๕ ลงใหเหลือศูนย) และยิ่งอธิบายไดดวยวา ทําไม

              เราถึงซื้อลอตเตอรี่ (เพื่อขยับโอกาสในการถูกรางวัลจากศูนยคือไมซื้อเลย ไปเปนมีโอกาสถูก
              รางวัลบางจากการซื้อ แมโอกาสนั้นจะมีเพียงรอยละ ๑ เทานั้น)



                      อาชญากรกับความมั่นใจในแผนที่ลนเกิน (planning fallacy) และ
              ปญหาของการขาดความควบคุมตนเอง


                      วัตถุประสงคหนึ่งของการลงโทษคือเพื่อปองปรามบุคคลอื่นมิใหกระทําผิด
              (deterrence) ดังนั้นจึงมีความคิดความเชื่อที่แพรหลายวาโทษอาญาที่รุนแรงจะทําใหคน
              หวาดกลัวไมกลากระทําความผิด และเมื่อเกิดอาชญากรรมอันอุกอาจหรือนาสยดสยองขึ้น

              เสียงเรียกรองใหลงโทษผูกระทําผิดอยางรุนแรง เชน ประหารชีวิต จึงมักจะดังกึกกองอยูเสมอ
              ในขณะที่งานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาสถิติอาชญากรรมกับการประหารชีวิตทั้งในสหรัฐอเมริกา

              และประเทศในทวีปเอเชียตางสรุปวา ยังไมพบหลักฐานยืนยันวาโทษประหารชีวิตสามารถขมขู
                                           ๑๗
              หรือยับยั้งการกระทําความผิดได  ซึ่งทําใหขอเท็จจริงนี้กลายเปนขอโตแยงหลักของฝาย
              ที่ตอตานโทษประหารชีวิต ทั้งนี้ไมวาความเห็นเกี่ยวกับโทษประหารชีวิตจะเปนอยางไร

              แตขอโตแยงเรื่องโทษหนักขนาดประหารชีวิตยังไมอาจปองปรามอาชญากรรมไดก็เปนเรื่อง
              นาครุนคิดวาเหตุใดจึงเปนเชนนั้น แลวควรแกไขอยางไรเพื่อใหเกิดการปองปรามไดเต็มที่


                      ในแวดวงจิตวิทยาเปนที่ทราบกันดีวา คนเรามีแนวโนมที่จะมีความเชื่อมั่นลนเกิน
              (overconfi dence) หรือเกิดอคติจากการมองโลกในแงดี (optimistic bias) ในแผนการ
              ของตนเอง ดังที่เปนเรื่องปกติที่ผูประกอบการหนาใหมจะเชื่อมั่นวาธุรกิจของตนจะประสบ

              ความสําเร็จ ทั้งที่ตามสถิติแลวธุรกิจเกิดใหมสวนใหญมักจะลมเหลว แตเราก็มักรูสึกวาความ
              ผิดพลาดของคนอื่นไมมีทางเกิดขึ้นกับเรา ความรูสึกที่วาเรา “เหนือกวา” ผูอื่นนั้นเกิดขึ้นเอง
              โดยธรรมชาติ และเรื่องนี้ไมจํากัดแคในแงมุมการประกอบธุรกิจเทานั้น แตยังรวมถึงทุกแงมุม

              ของชีวิตที่เกี่ยวของกับแผนการในอนาคต ไมเวนแมกระทั่งแผนในการประกอบอาชญากรรม

              ñ÷. ͋ҹ¼Å¡ÒÃÇÔ¨ÑÂÍ‹ҧ‹Íä´Œ·Õè https://deathpenaltyinfo.org/discussion-recent-deterrence-studies
               áÅзÕè https://www.washingtonpost.com/news/wonk/wp/2014/04/30/theres-still-no-
                  evidence-that-executions-deter-criminals/?noredirect=on&utm_term=.27b78fb7cff1 ໚¹μŒ¹
                  (Ê׺¤Œ¹Çѹ·Õè ñò ¡Ã¡®Ò¤Á òõöñ).


              ๒๐๐                                                             เลมที่ ๑ ปที่ ๖๕
   206   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216