Page 39 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 39
คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
| 28
- ในส่วนท้ายของค าสั่งกรณีผู้เสียหายเป็นโจทก์ หลังจากที่ให้เหตุผล
ที่ไม่รับไว้พิจารณาแล้วใช้ว่า
“...จึงให้นัดไต่สวนมูลฟ้องในความผิดฐาน ... ส่วนความผิดฐาน ...
ไม่รับไว้พิจารณา ให้โจทก์แยกฟ้องจ าเลยเป็นคดีใหม่ยังศาลที่มีอ านาจพิจารณา”
- กรณีการกระท าอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ความผิดบางกรรม
ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมที่อยู่ในอ านาจศาลอาญาคดีทุจริตฯ ให้ศาลมีค าสั่งไม่ประทับฟ้อง
- ในส่วนท้ายของค าสั่งกรณีอัยการสูงสุด พนักงานอัยการ ประธาน
กรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ หลังจากให้เหตุผลที่ไม่รับไว้พิจารณา
แล้วใช้ว่า
“...จึงมีค าสั่งประทับฟ้องในความผิดฐาน ... ส่วนความผิดฐาน ...
ไม่อยู่ในอ านาจศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงไม่ประทับฟ้อง”
- ในส่วนท้ายของค าสั่งกรณีผู้เสียหายเป็นโจทก์ หลังจากให้เหตุผล
ที่ไม่รับไว้พิจารณาแล้วใช้ว่า
“...จึงให้นัดไต่สวนมูลฟ้องในความผิดฐาน ... ส่วนความผิดฐาน ...
ไม่อยู่ในอ านาจศาลอาญาคดีทุจริตฯ จึงไม่รับไว้พิจารณา”
- หากประทับฟ้องเฉพาะบางฐานความผิดที่มีมูลให้จัดท าเป็นค าสั่ง
และในตอนท้ายให้สั่งในท านองว่า
“จึงมีค าสั่งประทับฟ้องในความผิดฐาน ... และพิพากษายกฟ้อง
ในความผิดฐาน ...”
ข้อสังเกต
๑. กรณีมีปัญหาว่าคดีใดอยู่ในอ านาจของศาลอาญาคดีทุจริตฯ หรือไม่
ให้รอการพิจารณาพิพากษาคดีไว้ชั่วคราวแล้วเสนอปัญหานั้นให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งฯ มาตรา ๑๑