Page 191 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 191

ดุลพาห




            นั้น แต่เมื่อใดที่มีองค์กรอาชญากรรมเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกระทำาความผิดนั้น การกระทำา
            ความผิดนั้นก็ถูกยกระดับให้เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ทันที โดยความผิดฐานค้ามนุษย์จะเป็น

            เสมือนความผิดอีกระดับหนึ่งที่สูงกว่าความผิดตามกฎหมายเฉพาะทั่วไป ทั้งนี้ สำาหรับ

            องค์ประกอบ “มีลักษณะข้ามชาติ” อาจจะไม่จำาเป็นต้องนำามาเพิ่มเป็นองค์ประกอบความผิด
            ฐานค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากในสภาพความเป็นจริงแล้ว การค้ามนุษย์อาจจะเกิดขึ้นได้ทั่วไป

            ในขอบเขตประเทศไทยด้วย เช่น การตกเขียว เป็นต้น

                     สำาหรับผลกระทบด้านหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นจากการเพิ่ม “มีองค์กรอาชญากรรม

            เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย” เข้าเป็นองค์ประกอบความผิดฐานค้ามนุษย์ คือ อาจส่งผลให้เกิดความ
            เข้าใจคลาดเคลื่อนได้ว่าประเทศไทยกำาลังจะย่อหย่อนต่อการปราบปรามการค้ามนุษย์หรือไม่

            และทำาให้สถิติคดีค้ามนุษย์ในภาพรวมลดลงนั้น ข้อห่วงกังวลนี้อาจแก้ไขได้โดยการนับรวม
            สถิติคดีตามกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคดีค้ามนุษย์ในฐานะ

            ที่เป็น“คดีที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์” เพราะอย่างไรก็ตาม

            คดีความผิดเหล่านี้ก็อยู่ในความรับผิดชอบที่จะต้องป้องกันและปราบปรามตามกฎหมายที่มีใช้
            บังคับอยู่แล้ว สำาหรับผู้เสียหายจากการกระทำาความผิดดังกล่าวก็อาจบัญญัติให้ได้รับประโยชน์

            ในฐานะเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
            พ.ศ. ๒๕๕๑ ส่วนการดำาเนินคดีก็จัดให้อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์

            พ.ศ. ๒๕๕๙ ด้วยได้

                     ซึ่งในคราวการพิจารณาพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

            (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ แก้ไขพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
            ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคำานิยาม “การแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” และองค์ประกอบ

            ความผิดตามมาตรา ๖ โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาตินั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มี

            การอภิปรายในประเด็นนี้อย่างกว้างขวาง โดยในที่สุดได้เห็นชอบให้กำาหนดเป็นข้อสังเกต
            ของคณะกรรมาธิการวิสามัญว่า “ด้วยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

            พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นการตรากฎหมายเพื่ออนุวัติการตามพิธีสารว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม
            และลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก เพิ่มเติมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย

            การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร ซึ่งกำาหนดลักษณะอาชญากรรม
            ที่เกี่ยวเนื่องกับการค้ามนุษย์ในลักษณะองค์กรอาชญากรรมอันเป็นองค์ประกอบความผิดที่






            180                                                              เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕
   186   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196