Page 200 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 200
ดุลพาห
อาญา มาตรา ๔๔/๑ แต่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ซึ่งในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง
ศาลจำาต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำาพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญา มาตรา ๔๖ ศาลฎีกาชอบที่จะกำาหนดค่าสินไหมทดแทนที่ผู้เสียหายที่ ๒
ได้รับจากการกระทำาความผิดของจำาเลยได้ กรณีไม่อาจนำากฎหมายวิธีสบัญญัติเรื่องอุทธรณ์
ฎีกามาตัดสิทธิของผู้เสียหายที่ ๒ ทั้งปัญหาตามมาตรา ๔๔/๑ เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบ
เรียบร้อยตามมาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕
คำ�พิพ�กษ�ศ�ลฎีก�ที่ ๙๑๗๓/๒๕๖๐
คำาร้องของผู้ร้องที่ขอให้บังคับจำาเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตน ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๔/๑ ย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อคดี
อาญายังไม่ถึงที่สุดเพราะโจทก์ยังคงอุทธรณ์คำาพิพากษาศาลชั้นต้น การกำาหนดค่าสินไหม
ทดแทนในทางแพ่งซึ่งศาลจำาต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำาพิพากษาคดีส่วนอาญา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๖ จึงต้องรอฟังข้อเท็จจริงในคดีส่วน
อาญาให้เป็นที่ยุติก่อน แม้ผู้ร้องจะมิได้อุทธรณ์คำาพิพากษาศาลชั้นต้น แต่เป็นข้อกฎหมาย
ที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิพากษาว่าจำาเลยมีความผิดฐาน
ฆ่าผู้อื่นตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ย่อมมีอำานาจหยิบยกคดีส่วนแพ่งตามคำาร้องขึ้นวินิจฉัย
เพื่อให้เป็นไปตามผลแห่งคดีอาญาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา
๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๑๕
คำ�พิพ�กษ�ศ�ลฎีก�ที่ ๔๑๘๗/๒๕๕๘
ในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิจารณาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำาต้องถือ
ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำาพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา มาตรา ๔๖ เมื่อในคดีอาญาศาลพิพากษาว่าจำาเลยกระทำาความผิดตามฟ้อง
จึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำาเลยกระทำาละเมิดต่อโจทก์ร่วมและต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ตามคำาร้องขอค่าสินไหมทดแทนของโจทก์ร่วม แม้โจทก์ร่วมไม่ได้ฎีกาเรื่องค่าสินไหมทดแทน
มาด้วย ศาลฎีกาก็มีอำานาจหยิบยกคดีส่วนแพ่งขึ้นวินิจฉัยเพื่อให้เป็นตามผลคดีอาญาได้เพราะ
เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๑๙๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๒๕
พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๑ 189