Page 202 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 202

ดุลพาห




                                       สัมผัสคดีดังต่างประเทศ

              คำาพิพากษาศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปคดี Sejdovic v Italy (2006)


                               เกี่ยวกับการพิจารณาคดีลับหลังจำาเลย







                                                                        ดร. ศุภกิจ แย้มประชา*









                        ในอดีตการพิจารณาคดีอาญาของไทยทุกประเภทคดีจะอยู่ภายใต้บทบัญญัติ

               ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเป็นหลัก กล่าวโดยเฉพาะถึงหลักในเรื่องการ
               พิจารณาคดีลับหลังจำาเลย ก็จะเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา

                                         ๑
               ความอาญา มาตรา ๑๗๒ ทวิ  เท่านั้น ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบ
               รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๒ และ

               ข้อกำาหนดเกี่ยวกับการดำาเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำารงตำาแหน่งทางการเมือง


               *  รองเลขาธิการสำานักงานศาลยุติธรรม, ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการ
                 ยุติธรรม น.บ. (เกียรตินิยม) (ธรรมศาสตร์) น.ม. (กฎหมายอาญา) (ธรรมศาสตร์) น.บ.ท. M.A (Criminal
                  Justice) State University of New York at Albany, USA (ทุนรัฐบาล) Ph.D (Law) University of
                 Strathclyde, UK (ทุนรัฐบาล).
               ๑. ประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๒ ทวิ บัญญัติว่า ภายหลังที่ศาลได้ดำาเนินการตาม
                 มาตรา ๑๗๒ วรรคสอง แล้ว เมื่อศาลเห็นเป็นการสมควร เพื่อให้การดำาเนินการพิจารณาเป็นไปโดยไม่ชักช้า
                 ศาลมีอำานาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำาเลยได้ในกรณีดังต่อไปนี้
                      (๑) ในคดีมีอัตราโทษจำาคุกอย่างสูงไม่เกินสิบปี จะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม หรือในคดีมีโทษปรับ
                 สถานเดียว เมื่อจำาเลยมีทนายและจำาเลยได้รับอนุญาตจากศาลที่จะไม่มาฟังการพิจารณาและการสืบพยาน
                      (๒) ในคดีที่มีจำาเลยหลายคน  ถ้าศาลพอใจตามคำาแถลงของโจทก์ว่าการพิจารณาและการสืบพยาน
                 ตามที่โจทก์ขอให้กระทำาไม่เกี่ยวแก่จำาเลยคนใดศาลจะพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำาเลยคนนั้นก็ได้
                      (๓) ในคดีที่มีจำาเลยหลายคน ถ้าศาลเห็นสมควรจะพิจารณาและสืบพยานจำาเลยคนหนึ่งๆ ลับหลัง
                 จำาเลยคนอื่นก็ได้
                      ในคดีที่ศาลพิจารณาและสืบพยานตาม (๒) หรือ (๓) ลับหลังจำาเลยคนใด ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด
                 ห้ามมิให้ศาลรับฟังการพิจารณาและการสืบพยานที่กระทำาลับหลังนั้นเป็นผลเสียหายแก่จำาเลยคนนั้น.




               พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๑                                                     191
   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207