Page 143 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 143

๑๒๔



                       ต้องป้องกันไม่ให้เกิดความโกรธต้องป้องกันไม่ให้เกิดปฎิฆะ หากต้องป้องกันปฎิฆะก็ต้องมีจิตที่
                       ประกอบด้วยเมตตาเมื่อเกิดอรติ และหากป้องกันอรติไม่ให้เกิดหลักธรรมที่ต้องเจริญคือสติ การมีสติ

                       สามารถกำหนดรู้อารมณ์โกรธได้ทันกาลคือปัจจุบันขณะ เมื่อเกิดผัสสะในการรับรู้อารมณ์ทวารทั้ง ๖
                       ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เมื่ออรติไม่เกิดกิเลสสายโทสะก็ไม่มีโอกาสเกิดเช่นกัน


                                ๕) ล าดับขั้นของการแสดงความโกรธและระดับของความโกรธ

                                 ลำดับขั้นของการแสดงความโกรธที่พระสาลีบุตรได้อธิบายไว้ ๑๓ ขั้น และความเชื่อมโยง

                       กับระดับของความโกรธ ๓ ระดับ คือ ปฏิฆะ (ระดับเล็กน้อย) โกธะ (ระดับปานกลาง) และ อุปนาหะ
                       (ระดับมากที่สุด) ผู้วิจัยเขียนเป็นผังลำดับขั้นของการแสดงความโกรธและระดับของความโกรธ แสดง

                       รายละเอียดตามภาพที่ ๔.๕

                                   ล าดับขั้นของการแสดงความโกรธพระสาลีบุตรได้อธิบายไว้  ๑๓ ขั้น



                                    ฆ่าผู้อื่น แล้วจึงฆ่าตน (ความโกรธขั้นสูงสุด)

                                    ทำให้ชีวิต (ผู้อื่น) ดับ
                                                                               ๓. อุปนาหะ(ระดับมากที่สุด) คือ โกรธ

                                    ทำให้อวัยวะน้อยใหญ่หลุดไป                  ระดับทำลายสิ่งของ ทำร้ายผู้อื่น และ
                                                                               ทำร้ายตัวเอง หากทำไม่สำเร็จหรือยังไม ่

                                    ทำให้กระดูกหัก                             กระทำมักผูกโกรธด้วยการอาฆาต


                                    ทำให้เป็นแผลเล็กแผลใหญ่                    พยาบาท จองเวร

                                    ให้ท้อนไม้และศาสตราถูกต้อง (ผู้อื่น)

                                    เงื้อท่อนไม้และศาสตรา                       ๒. โกธะ(ระดับปานกลาง) หมายถึง


                                    จับท่อนไม้และศาสตรา                         อาการโกรธเดือดดาล แสดงออกทาง
                                                                                วาจาและคิดร้ายแต่ยังไม่ลงมือ
                                    เหลียวดูทิศต่างๆ เพื่อหาท้อนไม้
                                                                                กระทำ
                                    เปล่งผรสุวาจา (คําหยาบ)


                                    ทำให้คางสั่นปากสั่น                        ๑. ปฏิฆะ (ระดับเล็กน้อย) หมายถึง
                                                                               อาการขัดใจ เช่น หงุดหงิด ขุ่นข้องหมองใจ
                                    ทำให้หน้าเง้าหน้างอ หน้าบูดหน้าเบี้ยว      แต่ยังไม่แสดงอาการทางกายหรือทางวาจา

                                    ทำจิตให้ขุ่นมัว                            อาจเพียงสายตาขุ่นมัว ชักสีหน้า  หายใจถี่

                                                                               รัว ตัวสั่น


                                  ภาพที่ ๔.๕ ผังลำดับขั้นของการแสดงความโกรธและระดับของความโกรธ
   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147   148