Page 145 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 145

๑๒๖



                                      - จิตเกิดความอาฆาต ความขัดเคืองใจ ความกระทบกระทั่งใจ ความแค้นใจ ความ
                       เคืองใจ ความขุ่นเคืองใจ ความพล่านไปด้วยโทสะ จิตประทุษร้าย จิตมุ่งร้าย ความขุ่นจิต ความไม่แช่ม

                       ชื่นแห่งจิต

                                ๗) โทษของความโกรธ ในโกธนสูตร ได้กล่าวถึง โทษของความโกรธไว้ ๗ ประการ คือ

                       ๑) ผู้โกรธบ่อยย่อมเกิดผิวพรรนทรามเพราะใจที่ขุ่นมัว ๒) ผู้โกรธบ่อยย่อมมีความทุกข์ครอบงำใจ ๓)
                       ผู้โกรธบ่อยทำสิ่งใดไม่ค่อยเจริญ ๔) ผู้โกรธบ่อยมักเสื่อมจากทรัพย์ ๕) ผู้โกรธบ่อยมักเสื่อมจากยศ ๖)

                       ผู้โกรธบ่อยย่อมขาดมิตรเพราะบุคลต่างๆจะไม่อยากอยู่ใกล้ ๗) ผู้โกรธบ่อยย่อมมักทำความผิดได้

                       รุนแรง อยู่ในชาติปัจจุบันย่อมเดือดร้อนกายใจ เมื่อตายไปย่อมมีทุกคติเป็นที่หมาย

                                 นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้แบ่งโทษของความโกรธออกเป็น ๓ ลักษณะ คือ ทางกาย ทางวาจา

                       และทางใจ มีรายละเอียดดังนี้

                                 ๑) โทษของความโกรธทางกาย เมื่อบุคคลผู้มีความโกรธเกิดขึ้นแล้วจะ ก่อให้เกิดโทษ
                       ทางกาย คือ ย่อมประพฤติทุจริตทางกาย ก่อทุกข์ให้แก่ผู้อื่นด้วยการเบียดเบียน จองจำทำให้เสีย

                       ทรัพย์ การลักทรัพย์ การฆ่าผู้อื่นและฆ่าตนเอง ความโกรธเกิดขึ้นแล้วย่อมทำให้เป็นคนมืดบอดด้วย

                       สติปัญญาให้รู้จักเหตุและผลหลังจากตายแล้วเขาจึงไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก

                                 ๒) โทษของความโกรธทางวาจา เมื่อบุคคลผู้มีความโกรธเกิดขึ้นแล้วจะ ก่อให้เกิดโทษ

                                                                               ี
                                                                            ่
                                                        ็
                                                             ุ
                                                                         ู
                                            ุ
                       ทางวาจา ๔ ประการ คอ มสาวาท (พดเทจ) ปิสณาวาจา (การพดสอเสยด) ผรุสวาจา (พดคำหยาบ) และ
                                         ื
                                                                                             ู
                                                     ู
                       สัมผัปปลาปวาจา (การพูดไร้สาระ) หากมีเจตนาที่จะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง หรือเจตนาที่จะให้ถูก
                       เหยียดหยาม เป็นต้น เกิดจากโทสมูลจิต คนส่วนใหญ่คิดว่าอาวุธคือ มีด ปืน ระเบิด เป็นต้น แต่ลืมไป
                       ว่าลิ้นเป็นอาวุธทำให้เจ็บปวดใจมากเพราะวจีทุจริตทำความเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวงในโลก ทำให้
                       เกิดความแตกแยกในกลุ่มคนต่างๆ ในหมู่พระสงฆ์สมัยพุทธกาล ทำคนให้คิดฆ่าตัวตาย ในสังคม
                       ปัจจุบันเรียกว่า การกลั่นแกล้งที่แสดงออกด้วยคำพูดเกิดคดี (Bully) สำหรับผู้ที่กล่าววจีทุจริตย่อมทำ
                                                   ุ
                       ร้ายตนเองเพราะขณะนั้นสะสมอกศลกรรมซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดอกุศลวิบากต่อไป
                                ๓) โทษของความโกรธทางใจ เมื่อบุคคลผู้มีความโกรธเกิดขึ้นแล้วทางใจแล้วจะมีเจตนา

                       เบียดเบียนหรือจ้องทำร้ายผู้อื่น ผูกพยาบาท อาฆาต จองเวร ความโกรธเป็นเหมือนไฟที่เผาทุกอย่าง
                       และย้อนมาเผาตนเองให้มอดไหม้ บุคคลผู้ถูกความโกรธครอบงำแล้วย่อมเป็น ทุกข์ในชีวิตปัจจุบัน

                       ปลายทางของชีวิตต้องตกสู่อบายภูมิ ดังนั้น ความโกรธทำให้ผู้โกรธเป็นทุกข์ทั้ง ในปัจจุบันและใน
                       อนาคตกาล


                                 จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของความโกรธทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ความหมายของ
                       ความโกรธ คุณลักษณะของความโกรธ สาเหตุและปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดความโกรธ ลำดับขั้นของ
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150