Page 69 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 69
๕๑
เรียบร้อย ก็สามารถเปลี่ยนเป็นวาจาหยาบคาบได้ และจากปกติเป็นผู้ที่มีกิริยาสุภาพนุ่มนวล ก็
สามารถเปลี่ยนเป็นผู้ที่มีกิริยาอาการมีจิตใจที่โหดเหี้ยม ทำร้ายผู้อื่นได้
๒.๒.๑๐ โทษของความโกรธทางกาย วาจา และใจ
ในโกธนาสูตร ได้กล่าวถึง โทษของความโกรธไว้ ๗ ประการ อธิบายโดยสังเขป คือ
๑) ผู้โกรธบ่อยย่อมเกิดผิวพรรนทรามเพราะใจที่ขุ่นมัว
๒) ผู้โกรธบ่อยย่อมมีความทุกข์ครอบงำใจ
๓) ผู้โกรธบ่อยทำสิ่งใดไม่ค่อยเจริญ
๔) ผู้โกรธบ่อยมักเสื่อมจากทรัพย์
๕) ผู้โกรธบ่อยมักเสื่อมจากยศ
๖) ผู้โกรธบ่อยย่อมขาดมิตรเพราะบุคลต่างๆจะไม่อยากอยู่ใกล้
๗) ผู้โกรธบ่อยย่อมมักทำความผิดได้รุนแรง อยู่ในชาติปัจจุบันก็เดือดร้อนกายใจ เมื่อตาย
๘๗
ไปก็มีทุกคติเป็นที่หมาย
นอกจากนี้ ยังได้แบ่งโทษของความโกรธออกเป็น ๓ ลักษณะ คือ กาย วาจา และใจ มี
รายละเอียดดังนี้
๑) โทษของความโกรธทางกาย กรรมใดที่บุคคลทำด้วยโทสะ เกิดจากโทสะ มีโทสะเป็น
เหตุ มีโทสะเป็นแดนเกิด กรรมนั้นเป็นอกุศล กรรมนั้นมีโทษ กรรมนั้นมีผลเป็นทุกข์ กรรมนั้นเป็นไป
๘๘
เพื่อความเกิดกรรมอีก กรรมนั้นไม่เป็นไปเพื่อความดับกรรม ความโกรธหรือโทสะจัดเป็นอกุศลมูล
กรรมที่บุคคลผู้มีโทสะทางกาย วาจา และใจจัดเป็นอกุศลกรรม แม้กรรมของบุคคลผู้มีโทสะ ถูกโทสะ
ครอบงำ กระทำความทุกข์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้อื่นด้วยเรื่องที่ไม่จริง ด้วยการเบียดเบียน จองจำ ให้เสีย
ทรัพย์ ติเตียน หรือขับไล่ โดยอวดอ้างว่า “เรามีกำลัง ทรงพลัง” ก็จัดเป็นอกุศลกรรม บาปอกุศลธรรม
จำนวนมากเหล่านี้เกิดจากโทสะ มีความโกรธเป็นเหตุ มีความโกรธเป็นแดนเกิด มีความโกรธเป็น
ปัจจัยย่อมเกิดมีแก่บุคคลผู้มีโทสะนั้นด้วยประการฉะนี้
๘๙
๘๗ อง.สตฺตก. (ไทย) ๒๓/๖๔/๑๒๕-๑๒๘.
ฺ
๘๘ องฺ.ทุก. (ไทย) ๒๐/๑๑๒/๓๕๔-๔๑๑.
๘๙ องฺ.ทุก. (ไทย) ๒๐/๗๐/๒๗๕-๔๑๑.

