Page 73 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 73
๕๕
เกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก หลังจากตายแล้ว ถ้าไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก กลับมาเกิด
๑๐๔
เป็นมนุษย์ในที่ใดๆ เขาก็จะเป็นผู้มีผิวพรรณทราม
สรุปเบื้องต้นได้ว่า เมื่อบุคคลผู้มีความโกรธเกิดขึ้นแล้วจะก่อให้เกิดโทษทางใจ ความโกรธ
มีโทษมาก เป็นภัยต่อตนเองและผู้อื่น ความโกรธเป็นเหมือนไฟที่เผาทุกอย่าง เผาลนตนเองให้มอด
ไหม้ และเผาทำลายผู้อื่นได้โดยง่าย บุคคลผู้ถูกความโกรธครอบงำแล้วย่อมเป็นทุกข์ ทั้งใน ปัจจุบัน
และในอนาคตกาล
๒.๒.๑๑ หลักเมตตาธรรมที่เป็นปรปักษ์กับความโกรธ
ุ
พระพทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความเมตตามีความปรารถนาให้ มนุษย์ เทพ เทวดา และ
สัตว์ ตลอดจนผู้ตกอยู่ในนรกภูมิต่างๆ พ้นทุกข์ประสบความสงบสุข หลุดพ้นจากอกุศลมูล ๓ (ราคะ
โทสะ โมหะ) โดยเฉพาะ โทสะ อันมีเมตตาธรรม เป็นหลักธรรมที่เป็นปรปักษ์ หากจิตใจมนุษย์
ประกอบด้วยเมตตาจิตทุกกระทำทางกาย วาจา และใจ แล้ว มนุษย์ผู้มีเมตตาจิตย่อมปราศจากความ
โกรธ และหากคนในสังคมมีเมตตาจิต สังคมก็จะปราศจากความโกรธ ไม่มีการทะเลาะวิวาท ไม่มีการ
ทำร้ายทำลายซึ่งกันและกัน จะเป็นสังคมที่สงบและสันติสุข พระพุทธศาสนามีหลักการเจริญเมตตา
ธรรม ดังนี้
๑) การเจริญเมตตาธรรมเพื่อระงับความโกรธ
พระพุทธศาสนาสอนให้ทุกคนตั้งจิตให้ประกอบด้วยเมตตาในการดำรงชีวิต ด้วยการแผ่
เมตตาและการเจริญเมตตาในสัตว์ทั้งหลายด้วยจิตเสมอกัน ในสถานที่ทั้งหลาย มีเมตตา ความเคารพ
สงเคราะห์กันและกัน ไม่วิวาทกัน ไม่ทำร้ายกัน มีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับวิธีการ
ปฏิบัติเพื่อเจริญเมตตา ปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎกหมวดทุติยสารณียสูตร ปฐมสารณียสูตร และ
สิงคาลกสูตรตอนหนึ่ง ว่าด้วยการแผ่เมตตา ๓ ประการ ๑. เมตตากายกรรม คือ จะทำสิ่งใด ก็ทำ
๑๐๕
ด้วยเมตตา ๒. เมตตาวจีกรรม คือ จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา ๓. เมตตามโนกรรม คือ จะคดสิ่งใด ก็
ิ
คิดด้วยเมตตา อธิบายเพิ่มเติมได้ดังนี้
(๑) เมตตากายกรรม พระพุทธศาสนา สอนว่า “จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา”
หมายความว่า การแสดงออกทางกาย เป็นการแสดงออกมาทางสุจริตธรรม ๓ ประการ ได้แก่
๑๐๖
๑๐๔ ม.อุ. (ไทย) ๑๔/๒๙๒/๓๕๒-๔๑๐.
๑๐๕ องฺ.ฉกฺก. (ไทย) ๒๒/๑๑-๑๒/๔๒๖-๔๒๗, ที.ปา. (ไทย) ๑๑/๒๗๒/๒๑๖.
๑๐๖ ที.ปา. (ไทย) ๑๑/๒๗๒/๒๑๖.

