Page 76 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 76

๕๘



                       ความรู้สึกของผู้ทานตามสมมุติบัญญัติของแต่ละบุคคล) ดังที่ปรากฏในหมวดนิวรณ์วรรคข้อที่ ๙ ฐาน
                       สูตรว่าด้วยเรื่อง ฐานะที่ควรพิจารณาเนืองผลแห่งการพิจารณาฐานะ ๕ ประการว่า คือ


                                    “เรามีกรรมเป็นของตน เป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มี
                       กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมเป็นผู้รับผลของกรรม

                          ๑๑๓
                       นั้น”
                                 ฉะนั้น เมื่อทำอะไรลงไปแล้วสิ่งที่เราทำนั้นก็จะส่งผลตามมาให้เราได้เสวย อย่างแน่นอน

                       ขึ้นอยู่กับว่ามันจะส่งผลเร็วหรือช้าเท่านั้น ไม่มีใครหนีพ้นสิ่งที่ทำลงไปได้ เพราะฉะนั้นเมื่อความมี
                       เมตตาอันบุคคลปฏิบัติแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้งไว้เนือง ๆ สั่งสมแล้ว ปรารถนา

                       เสมอ ดีแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์ ๑๑ ประการ ดังที่ปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎก หมวดเมตตากถา ว่า

                                ๑๑๔
                       ด้วยเมตตา  คือ ๑) หลับเป็นสุข ๒) ตื่นเป็นสุข ๓) ไม่ฝันร้าย ๔) เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย ๕)
                       เป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย ๖) เทวดาทั้งหลายรักษา ๗) ไฟ ยาพิษหรือศัสตรามากล้ากรายไม่ได้ ๘)

                       จิตตั้ง มั่นเร็ว ๙) สีหน้าสดใส ๑๐) ไม่หลงลืมสติตาย และ ๑๑) เมื่อยังไม่แทงตลอดคุณวิเศษอันยอด
                       ยิ่งย่อมเข้าถึงพรหมโลก


                                 กล่าวได้ว่า ผู้ประสงค์จะจัดระงับความโกรธและหรือจัดการความโกรธของตนเองให้ได้
                       อย่างเด็ดขาด หรือ อยู่กับความโกรธโดยไม่โกรธ ต้องเป็นผู้เจริญเมตตาธรรมและแผ่เมตตาอันมีกุศล

                       กรรม ๑๐ เป็นเบื้องต้นของจิตในทุกขณะจิตเสียก่อน

                                    ๔) วิธีการแผ่เมตตาธรรมทางจิต


                                  การแผ่เมตตาทางจิตหรือ “เมตตาเจโตวิมุติ” นั้น เป็นวิธีหนึ่งที่พระพุทธศาสนาสอนให้
                       มนุษย์แสดงเมตตาจิตให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยการตั้งความปรารถนาดีให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย มีแต่

                       ความสุข ไม่มีเวร ไม่มีภัย การส่งเมตตาไปทางกระแส่จิต โดยมีวิธีการแผ่เมตตาจิต ๓ วิธี ดังนี้

                                     วิธีที่ ๑ เมตตาเจโตวิมุติแผ่ไปโดยไม่เจาะจง (อโนธิโสผรณา) ด้วยอาการ ๕ อย่าง


                                           (๑) ขอสัตว์ทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน ไม่มทุกข์ มีสุขรักษาตนเถิด
                                                                                    ี
                                           (๒) ขอปาณชาติทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน ไม่มีทุกข์ มีสุขรักษาตนเถิด

                                           (๓) ขอภูตทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน ไม่มีทุกข์ มีสุขรักษาตนเถิด

                                           (๔) ขอบุคคลทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกันไม่มีทุกข์ มีสุขรักษาตนเถิด




                                 ๑๑๓  อง.ปญฺจก. (ไทย) ๒๒/๕๗/๑๐๐.

                                 ๑๑๔  พระพุทธโฆสเถระ, คัมภีร์วิสุทธิมรรค, แปลโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร), พิมพ ์
                       ครั้งที่ ๗, (กรุงเทพมหานคร: บริษัท ธนาเพรส จำกัด, ๒๕๕๑), หน้า ๕๓๕-๕๓๙.
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81