Page 74 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 74
๕๖
๑. การเว้นจากการฆ่าสัตว์ ฆ่ามนุษย์ (รวมถึง พืช) ไม่ทำร้าย ไม่เบียดเบียดกัน
เลี้ยงชีพให้ตั้งอยู่ในสัมมาอาชีวะ เป็นต้น
๒. การเว้นจากการลักทรัพย์การปล้น การเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่
ไม่ใช่ของตนมาเป็นของตนหรือพวกพ้อง การทุจริตต่อหน้าที่ การฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นต้น
๓. การเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ไม่ผิดลูกผิดเมียเขา การไม่ทำร้ายขืนใจ
ผู้อื่น ไม่ข่มเหงรังแกทางเพศ เป็นต้น
(๒) เมตตาวจีกรรม พระพุทธศาสนา มีสอนว่า “จะพูดสิ่งใดก็พูดด้วยเมตตา
๑๐๗
หมายความว่า การพูดนั้นต้องประกอบด้วยสุจริตธรรม ๔ ประการ ได้แก ่
๑. การเว้นจากการพูดเท็จ พูดโกหก พูดให้ผู้อื่นเข้าใจผิดไปจากความจริง พูด
หลอกลวงโดย หวังทรัพย์สินเงินทองผู้อื่น เป็นต้น
๒. การเว้นจากการพูดส่อเสียด พูดยุยงให้ผู้อื่นแตกแยกกัน สร้างความร้าวฉานให้
ผู้อื่น เป็นต้น
๓. การเว้นจากการคาหยาบ คำไม่สุภาพ คำอัปมงคล คำลบลู่ผู้อื่น เป็นต้น
๔. การเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่เห็น พดว่าร้ายใส่ร้ายผู้อื่น ใส่
ู
ร้ายต่างๆ นานา เป็นต้น
(๓) การใช้เมตตามโนกรรม พระพุทธศาสนาสอนว่า “จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
หมายความว่า ความคิดต้องประกอบด้วย สุจริตธรรม ๓ ประการ ได้แก ่
๑๐๘
๑. ต้องเว้นจากการคิดพยาบาท อาฆาตแค้นผู้อื่น ไม่คิดจองเวรผู้อื่นทั้งที่ เป็น
ศัตรูและไม่ใช่ศัตรูเป็นต้น
๒. ต้องเว้นจากการประทุษร้ายร่างกาย ทรัพย์สินเงินทองผู้อื่นเป็นต้น
๓. ต้องเว้นจากการเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม สิ่งที่ไม่ดีไม่ควรทำก็อย่าคิดทำ
สิ่งใดเดือดร้อนตัวเองและผู้อื่นก็อย่าคิดทำ เป็นต้น
จากหลักการเจริญเมตตาธรรมนั้นท่านทรงเน้นไปที่จิตใจตนเองให้ปฏิบัติให้ประกอบด้วย
เมตตาทางกาย วาจา และใจ เป็นหลัก สำหรับการสวดมนต์ การขอพรหรืออ้อนวอนต่าง ๆ เป็นเพยง
ี
๑๐๗ ที.ปา. (ไทย) ๑๑/๒๗๒/๒๑๖.
๑๐๘ ที.ปา. (ไทย) ๑๑/๒๗๒/๒๑๖.

