Page 78 - Thesis PhD Anger by Chaichana

๖๐

(๙) ขอสัตว์ในทิศเบื้องล่าง จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน ไม่มีทุกข์ มีสุขรักษาตน
เถิด

(๑๐) ขอสัตว์ทั้งปวงในทิศเบื้องบน จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน ไม่มีทุกข์ มีสุข
๑๑๗
รักษาตนเถิด

กล่าวได้ว่า เป็นวิธีการแสดงเมตตาเจโตวิมุติมีวิธีการแผ่ ๓ วิธี คือ แบบไม่เจาะจง เจาะจง
และสู่ทิศทั้งหลาย เพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีความสุขด้วยกัน ไม่มีทุกข์ ไม่อาฆาตเบียดเบียนต่อกัน

สรุปได้ว่า การแผ่เมตตาธรรมนั้น ผู้แผ่เมตตาต้องเป็นผู้ประกอบด้วยกุศลธรรมบท ๑๐
ประกอบด้วย กายสุจริต ๓ วจีสุจริต ๔ มโนสุจริต ๓ การแผ่เมตตาและเจริญเมตตาในสัตว์ด้วยอาการ

๘ อย่าง และมีอานิสงค์ ๑๑ ประการ

๒.๒.๑๒ วิธีระงับความโกรธในสมัยพุทธกาลและสังคมร่วมสมัย

๑) วิธีระงับความโกรธสมัยพุทธกาล

ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท ได้ปรากฏคำสอนสำหรับการระงับความโกรธไว้หลาย

พระสูตร สำหรับการวิจัยนี้ ได้ยกตัวอย่างการระงับความโกรธของพระพุทธเจ้า พระสารีบุตร และ
พระปุณณะ พระพุทธโฆสเถระสรุปความได้ดังต่อไปนี้

๑.๑ พระพุทธเจ้า

เหตุการณ์เกี่ยวกับการระงับความโกรธของพระพุทธเจ้าในการวิจัยนี้ได้ยกตัวอย่าง ๒

เรื่อง คือ

(๑) พระนางมาคันทิยาผู้ผูกพยาบาทพระพุทธเจ้า

มูลเหตุนางมาคันทิยาผูกอาฆาตพระพุทธเจ้า เรื่องโดยย่อสมัยที่พระพุทธเจ้าประทับ

อยู่ ณ กรุงโกสัมพี พระพุทธเจ้าทรงเสด็จไปโปรดแสดงธรรมแก่บิดาและมารดาของนางมาคันทิยา

เมื่อบิดามารดาของนางคันทิยาเห็นรูปลักษณะของพระพุทธเจ้า จึงประสงค์จะยกลูกสาวให้เป็นภรรยา
พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสทำนองว่า อย่าประสงค์ยกลูกสาวให้พระองค์เลย เราไม่ปรารถนาจะ

ถูกต้องสรีระแห่งธิดาของท่านนั้นแม้ด้วยเท้า ฯ หลังแสดงธรรมจบ บิดานางคันทิยาบรรลุเป็น
้
พระอนาคามี ส่วนมารดาบรรลุเป็นพระโสดาบัน ส่วนนางคันทิยาจิตโกรธแคนและผูกพยาบาทอาฆาต
ตั้งแต่นั้นมา เมื่อครั้นนางได้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าอุเทน นางได้จ้างพวกชาวเมืองรวมทั้งกรรมกร

รับสั่งให้ด่าบริภาษพระพุทธองค์ พวกมิจฉาทิฐิผู้ไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้ติดตามด่า

๑๑๗ ขุ.ป. (ไทย) ๓๑/๒๒/๔๖๑.