Page 12 - บทที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์
P. 12

11


                         ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy System) เป็นระบบเศรษฐกิจที่มีลักษณะ
               ผสมผสานระหว่างระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมกับระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลาง ทั้งรัฐบาลและ
               เอกชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ รัฐบาลและเอกชนจะมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินกลไก
               ราคาจะมีบทบาทในการจัดสรรทรัพยากรและจัดสรรผลผลิต แต่จะมีบทบาทน้อยกว่าระบบเศรษฐกิจแบบทุน

               นิยมเนื่องจากมีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจหลายฝ่าย เช่น สหภาพแรงงาน สมาคมการค้าและธุรกิจ กลุ่ม
               เหล่านี้มีอิทธิพลและอำนาจผูกขาดบางส่วน ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจผลิต การลงทุน การจัดสรรทรัพยากร เป็น
               ต้น

                         ระบบเศรษฐกิจแบบผสมเป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นและเปิดโอกาสให้มีการเลือกเครื่องมือเพื่อใช้
               ในการแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับกิจกรรม เพราะเป็นระบบที่ใช้ทั้งกลไลราคาและการ
               วางแผนจากส่วนกลาง
                         ข้อดีและข้อเสียของระบบเศรษฐกิจแบบผสม

                         ข้อดี มีดังน  ี้
                         การดำเนินการมีความคล่องตัว เพราะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของสภาพเศรษฐกิจได้
               การอาศัยกลไกราคาเพื่อจูงใจให้เอกชนทำการลงทุนและทำการผลิตสินค้าและบริการเพื่อลดภาระของรัฐบาล
               แต่ถ้าการดำเนินการของเอกชนไปถึงระยะหนึ่งที่รัฐบาลเห็นว่าถ้ายังคงให้เอกชนดำเนินการต่อไปอย่างอิสระ

               อาจเกิดปัญหาและความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้ รัฐบาลก็จะเข้ามาดำเนินการควบคุมหรือออกกฎข้อบังคับ
               หรือกฎหมาย และเมื่อใดที่รัฐบาลเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องเข้าไปกำกับก็จะปล่อยให้เอกชนดำเนินการ
               ต่อไป
                         ข้อเสีย มีดังนี้

                         เอกชนอาจขาดแรงจูงใจในการดำเนินการ เพราะเอกชนมีความรู้สึกว่าการเข้ามาดำเนินการต้อง
               เสี่ยงกับความไม่แน่นอนจากนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายและการใช้อำนาจต่าง
               ๆ ทำให้เอกชนขาดความมั่นใจในการลงทุน การดำเนินการผลิตขนาดใหญ่ของรัฐบาลมักจะขาดประสิทธิภาพ

               เมื่อเทียบกับเอกชน กล่าวคือ คุณภาพจะไม่เท่าเทียมกับที่เอกชนผลิตขึ้น

               7. เครื่องมือประกอบการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์
                      ในการศึกษาทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจที่ตรงกัน นักเศรษฐศาสตร์จำเป็นต้องใช้

               เครื่องมือทางคณิตศาสตร์บางอย่างเข้ามาช่วย นอกเหนือจากการอธิบายโดยวิธีพรรณนา ดังนั้น จึงควรทำ
               ความเข้าใจเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ ฟังก์ชัน สมการ กราฟ ความชัน ค่ารวม ค่าเฉลี่ย และค่าหน่วย
               เพิ่ม

                      รวมทั้งค่าสูงสุด-ค่าตํ่าสุด ก่อนที่จะได้ทำการศึกษาต่อไป ในที่นี้จะอธิบายเครื่องมือต่าง ๆ คร่าว ๆ
               โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของตัวแปรเพียงสองตัวเท่านั้น เพื่อไม่ให้ยุ่งยากเกินไปและสามารถเข้าใจทฤษฎีในบท
               ต่อ ๆ ไปได้
                         1.  ฟังก์ชัน (Function) หมายถึง ความสัมพันธ์ของตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปโดยสามารถแสดง

               ในรูปคณิตศาสตร์ได้ เช่น
                                                         Y = f(X)
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17